วันที่ 15 มกราคม 2562 นางสาวธิดารัตน์ ยิ่งเจริญ คนรุ่นใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ปัญหาเรื่องฝุ่นละอองไม่ใช่เรื่องใหม่เพราะว่าหลายประเทศได้ประสบปัญหานี้มาแล้ว เช่น สหราชอาณาจักรเกิดเหตุการณ์ The Great Smog ขึ้น ในปี พ.ศ. 2495 และนายกรัฐมนตรี Winston Churchill เองก็เกือบจะตกเก้าอี้นายกฯ เพราะรัฐบาลในขณะนั้นไม่สนใจที่จะแก้ปัญหาจริงจัง

นางสาวธิดารัตน์ กล่าวอีกว่า รัฐบาลควรศึกษาประสบการณ์ของจีน เพราะจีนเริ่มจัดการกับปัญหาฝุ่นละอองอย่างจริงจังตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556 โดยประกาศภาวะฉุกเฉินเรื่องสภาพอากาศสำหรับ 5 ปี โดยหยุดการก่อสร้างและปิดโรงงานที่ก่อให้เกิดฝุ่นละออง จัดทำงบประมาณเพื่อบำบัดมลพิษทางอากาศ และออกระเบียบการปรับลดปริมาณการใช้ถ่านหิน โดยมีการจัดตั้งหน่วยงานชื่อ Clean Air Alliance of China (CAAC) เพื่อมุ่งเน้นการแก้ปัญหาในปักกิ่ง เทียนจิน เหอเป่ย สามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซีเกียง และสามเหลี่ยมปากแม่น้ำเพิร์ล

จีนได้เปลี่ยนการใช้เชื้อเพลิงจากถ่านหินเป็นก๊าซหรือไฟฟ้า หากจำเป็นต้องใช้ถ่านหินให้ติดระบบกำจัดสารกำมะถัน มีการใช้ระบบกวาดถนนอัตโนมัติ กระตุ้นการปลูกป่า มีระบบจัดการน้ำมันและควันในอุตสาหกรรมอาหาร และเน้นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยพลังงานหมุนเวียน (circular economy)
นอกจากนี้ รัฐบาลจีนได้เปิดให้ประชาชนมีอำนาจในการตรวจสอบความโปร่งใสของการแก้ปัญหา โดยเปิดเผยข้อมูลการทำงานสู่สาธารณะและให้ประชาชนสามารถรายงานผ่านทางโซเชียลมีเดียได้โดยตรงหากพบเห็นโรงงานหรือบุคคลใดละเมิดกฎระเบียบการลดฝุ่นละออง

“รัฐบาลไทยควรเอาวิธีการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองของรัฐบาลจีนมาเป็นกรณีศึกษา โดยการวางแผนแก้ปัญหาอย่างจริงจัง เปลี่ยนแปลงโครงสร้างการใช้พลังงาน และให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด มีประสิทธิภาพ และมีความโปร่งใส แต่ก็ไม่แน่ใจว่ารัฐบาลชุดนี้จะทำได้หรือไม่ เพราะว่ามีหลายกรณีที่รัฐบาลไม่ให้โอกาสประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาผลกระทบสิ่งแวดล้อมของชุมชนเลย” นางสาวธิดารัตน์ กล่าว