พล.ท.พงศกร เตือนบิ๊กทหาร ปท.ที่ยึดมั่นประชาธิปไตย ทหารอาชีพจะไม่วิจารณ์การเมือง

“อนาคตใหม่” ซัด 3 นายทหารผู้ใหญ่อัด “คนอยากเลือกตั้ง” เป็นทหารการเมือง แนะปฏิรูปให้พลเรือนอยู่เหนือกองทัพ – ใครอยากวิพากษ์วิจารณ์ต้องลาออกแล้วอย่างน้อย 5 ปี

เมื่อวันที่ 14 มกราคม พล.ท.พงศกร รอดชมภู รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า บทบาทของนายทหารผู้ใหญ่หลายท่านที่ออกมาแสดงความเห็นทางการเมืองในช่วงนี้ เห็นชัดเจนว่าเป็นการพูดในฐานะทางการเมือง หรือเรียกได้ว่าทหารการเมือง ไม่ใช่ทหารอาชีพแต่ประการใด เพราะทุกท่านมีตำแหน่งทางการเมืองทางใดทางหนึ่งกำกับอยู่ ในประเทศตะวันตกที่ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย มีข้อกำหนด ห้ามมิให้ทหารวิพากษ์วิจารณ์ทางการเมือง เพราะทหารเป็นผู้ถืออาวุธ เป็นองค์กรที่ได้เปรียบในเรื่องอำนาจ ในสหรัฐอเมริกา แม้แต่การเลี้ยงรุ่นก็ยังทำไม่ได้ และการที่รัฐบาลพลเรือนอยู่เหนือกองทัพ ซึ่งจะเป็นเงื่อนไขสำคัญในการให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตยและจะทำให้สังคมนั้นกินดี อยู่ดี ตามมาในที่สุด

พล.ท.พงศกร กล่าวอีกว่า ความสงบราบคาบ เป็นสัญญาณที่เลวร้ายต่อทางเศรษฐกิจ ต่อความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมต่างๆ มากกว่าสังคมที่มีการยอมรับความแตกต่างหลากหลายและการแลกเปลี่ยนความเห็นกันอย่างเสรีในกรอบที่ตกลงกันล่วงหน้า โดยไม่มีการละเมิดกติกากัน เช่น การรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งและวาระการเลือกตั้งที่แน่นอน เป็นต้น

ประเด็นที่กลุ่มอยากเลือกตั้งออกมาเรียกร้องไม่เลื่อนหรือไม่เลิกการเลือกตั้งนั้น คงจะไม่สามารถเรียกกระแสประชาชนได้ หากว่าผู้มีอำนาจปกครองมีสัจจะวาจาในเรื่องของกำหนดเวลาต่างๆ เพราะแม้แต่ประเทศที่เป็นเผด็จการอย่างถึงที่สุด การรักษาคำสัตย์ยังถือเป็นเรื่องสำคัญ

“พรรคอนาคตใหม่ เรามีความมุ่งมั่นที่จะตัดวงจรการรัฐประหาร ส่งเสริมทหารอาชีพให้เป็นที่พึ่งของประชาชน ใครต้องการมาวิพากษ์ วิจารณ์หรือทำงานการเมือง ต้องออกจากการเป็นทหารมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ปี เช่นเดียวกับทหารในประเทศเครือจักรภพ มาถึงจุดนี้ ประชาชนคงแยกแยะได้นานแล้วว่า จะอยู่อย่างสงบราบคาบไปเสียทุกอย่างเช่นปัจจุบัน หรือจะมีการเลือกตั้ง มีการเคลื่อนไหวทางการเมือง มีการโต้แย้ง มีการตรวจสอบการทุจริตนักการเมือง และอยู่ร่วมกันท่ามกลางความแตกต่างหลากหลาย แบบไหนจะดีกว่ากัน” พล.ท.พงศกร กล่าว

มติชนออนไลน์