“ยงยุทธ” ชี้ แก้ความเหลื่อมล้ำต้องเริ่มทบทวนกฎหมายเอื้อคนไม่เท่ากัน

วันที่ 10 มกราคม 2562 นายยงยุทธ ติยะไพรัช กองเชียร์พรรคเพื่อชาติ ได้เสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำว่า เราได้ตัวเลขทางเศรษฐกิจมหาศาล ตัวเลขการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจมาจาก income ภาษีรายได้ อันที่สองคือ มาจากรายจ่ายภาครัฐพอดี เราเห็นการประกาศลงทุนเมกะโปรเจ็กต์หลายเป็นล้านๆบาท สำหรับเศรษฐีหลายแสนล้าน หรือแม้กระทั่งการผูกขาดตัดตอน วันนี้เราเห็นร้านค้าร้านขายทั้งหลายเกิดจากการบริหารของกลุ่มทุน สินค้าเกษตรขายไม่ได้ ตกต่ำขาดทุน เงินถูกดูดไปอยู่กับคนไม่กี่ตระกูล เอาเงินไปซื้อที่ดินแปลงใหญ่ถ้ามารวบรวมกันแล้วได้มากกว่า 12 จังหวัด นอกจากนี้ประชาชนเข้าถึงการรักษาพยาบาลยาก ระยะทางของคนแต่ละพื้นที่มีไม่เท่ากัน ควรจะต้องมีโรงพยาบาลที่พอเหมาะในแต่ละพื้นที่ ต้องสร้างนโยบาย 1ตำบลก็ต้องมีหมอ ด้านชาติพันธุ์ จะต้องมีโรงพยาบาลตำบลอยู่ใกล้ชิดชาวบ้านต้องมีแพทย์มีเครื่องมือที่ทันสมัย ควรจะมีเครื่องเอ็กซเรย์ ห้องผ่าตัดเล็กๆ ให้กับคนเหล่านี้ ในเมื่อเราให้โอกาสในการรักษา ไม่ต้องเป็นภาระครอบครัว แต่การเข้าถึงจะต้องพัฒนาต่อ

“ปัญหาความเหลื่อมล้ำเกิดจากโครงสร้างการบริหารการจัดการที่ผิดพลาดและล้มเหลว เป็นเรื่องของโครงสร้างทางสังคมโครงสร้างที่กฎหมายที่เขียนไว้และโอกาสของคน มันไม่มีเท่ากัน ตั้งแต่เริ่มต้นมันจึงทำให้เกิดปัญหาความเหลื่อมล้ำ ที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะเรื่องของการผูกขาดตัดตอน เราดูสนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมือง ผู้ได้รับสัมปทานเจ้าเดียว แต่ราคาสินค้าเกษตร ทุกวันนี้อ้อย ข้าวโพด ถั่วเหลือง ข้าว ทั้งหลายขาดทุนหมด ไม่รู้ว่าเป็นเวรกรรมอะไรของพี่น้องประชาชน ทำให้คนคิดว่ารัฐบาลนี้มองคนจนเป็นศัตรูหรือเปล่า บางคนคิดอย่างนั้น แต่ในความเป็นจริง สินค้าเกษตรมันเหมือนน้ำท่วมมาทีเดียวก็ท่วมตูมเลย เรื่องข้าว บางชาติสร้างโกดังข้าวไว้ในต่างประเทศ เมื่ออบแห้งแล้วก็รีบสีเอาลงเรือแล้วไปเก็บไว้ตามโกดังที่เป็นลูกค้าของเราส่วนลูกค้ารายใหม่มันก็ต้องไปทำการตลาดเพิ่ม แต่โกดังบ้านเรามันพร่อง นอกจากนี้รัฐบาลต้องดู Value chain คือเรื่องของสายโซ่ของมูลค่าเพิ่ม ที่จะต้องทำต่อว่าทำอะไรบ้าง ในเรื่องการจัดการสินค้าเกษตรนั้น ยังไม่ได้ใช้ประสิทธิภาพในการบริหารได้เต็มร้อย ยังมีช่องว่างอยู่ รวมทั้งบางพื้นที่เกษตรกรถูกยึดเครื่องสูบน้ำ แทนที่จะให้ใบประกาศเกียรติคุณที่สามารถเพิ่มผลผลิตได้มัน กลับกลายเป็นว่าเป็นข้อห้าม เสมือนหนึ่งว่าเป็นคนทำผิดกฎหมายบ้านเมือง ซึ่งสิ่งเหล่านี้แหละมันไม่ควรจะเกิดขึ้นใครที่มีปัญญาทำอะไรในก็ทำให้เต็มที่หน้าที่ของรัฐคือ อำนวยความสะดวก” นายยงยุทธ กล่าว