ไบโอไทยพร้อมเข้าพบ ‘สนธิรัตน์’ 11ม.ค. ถก ‘สิทธิบัตรกัญชา’ ยื่นคำขาด5ข้อ ม.รังสิตร่วมด้วย

เมื่อวันที่ 10 มกราคม นายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ผู้อำนวยการมูลนิธิชีววิถี (ไบโอไทย) กล่าวว่า ในวันที่ 11 มกราคมนี้ ไบโอไทย กลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน (FTA Watch) มหาวิทยาลัยรังสิต ผู้เชี่ยวชาญด้านยา และสภาการแพทย์แผนไทย จะเข้าพบนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมปลัดกระทรวงพาณิชย์ และอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา ที่อาคารริมน้ำด้านหลัง ชั้น 11 กระทรวงพาณิชย์ เพื่อร่วมกันแก้ปัญหาสิทธิบัตรกัญชาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายตามการเชิญของกระทรวงพาณิชย์ ทั้งนี้ จะมีการยื่นข้อเรียกร้องจำนวน 5 ข้อ ได้แก่ 1.รัฐบาลต้องยกเลิกสิทธิบัตรเกี่ยวกับกัญชาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายทั้งหมดประมาณ 10 คำขอ ที่ขัดต่อมาตรา 5 และมาตรา 9 เช่น ขัดต่อมาตรา 5 (1) เพราะไม่ใช่การประดิษฐ์ขึ้นใหม่ มาตรา 5 (2) ไม่ใช่การประดิษฐ์ที่มีขั้นการประดิษฐ์สูงขึ้น ขัดมาตรา 9 (1) ซึ่งเกี่ยวข้องกับสารสกัดจากสัตว์หรือพืช มาตรา 9 (4) เกี่ยวกับวิธีการวินิจฉัย บำบัด หรือรักษาโรคมนุษย์ หรือสัตว์ และขัดต่อมาตรา 9 (5) การประดิษฐ์ที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อย เพราะกัญชายังคงเป็นสารเสพติด ที่นักวิจัยไทยไม่สามารถทำการวิจัยได้ตลอดสาย ซึ่งต้องยกเลิกโดยเร็วที่สุด และเสร็จสิ้นก่อนพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ยาเสพติดให้โทษฉบับปรับปรุงแก้ไข จะประกาศในราชกิจจานุเบกษา

นายวิฑูรย์ กล่าวต่อไปว่า 2.เรียกร้องให้กรมทรัพย์สินทางปัญญา ปรับปรุงคู่มือการตรวจสอบคำขอรับสิทธิบัตรการประดิษฐ์และอนุสิทธิบัตรฉบับปรับปรุงใหม่ ปี 2555 โดยต้องตัดข้อความซึ่งระบุว่า “ผลิตภัณฑ์ตามธรรมชาติที่ถูกทำให้บริสุทธิ์ USPTO EPO JPO ไม่ได้ถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ หรือการค้นพบ เพราะว่าสารเหล่านี้ไม่ได้มีอยู่ในธรรมชาติในรูปลักษณะที่บริสุทธิ์” เนื่องจากแนวปฏิบัติดังกล่าวขัดต่อกฎหมายสิทธิบัตรของไทย และเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้ไม่มีการยกคำขอสิทธิบัตรเกี่ยวกับกัญชาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายข้างต้น โดยดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 60 วัน 3.ปรับปรุงกระบวนการรับคำขอสิทธิบัตร ในกรณีที่ขัดต่อมาตรา 9 อย่างเข้มงวด ตั้งแต่ก่อนการประกาศโฆษณา และให้ยกคำขอสิทธิบัตรทันทีเมื่อขัดต่อมาตรา 9 รวมทั้งต้องเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดของคำขอสิทธิบัตรที่ผ่านประกาศโฆษณาแล้วในเว็บไซต์ของกรมโดยทันที เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่เกี่ยวข้องมีข้อมูลเพียงพอในการคัดค้านหากสิทธิบัตรไม่ชอบด้วยกฎหมาย

นายวิฑูรย์ กล่าวว่า 4.ปรับปรุงกฎหมายสิทธิบัตร หรือตรากฎกระทรวง เพื่อให้คำขอสิทธิบัตรต้องแสดงที่มาของทรัพยากรชีวภาพและภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อคุ้มครองทรัพยากรชีวภาพและภูมิปัญญาท้องถิ่น ตามอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ ป้องกันไม่ให้เกิดกรณีการเข้ามาแย่งชิงทรัพยากรชีวภาพและภูมิปัญญาการแพทย์พื้นบ้านโดยมิชอบ ทั้งนี้ต้องดำเนินการให้เสร็จภายในรัฐบาลนี้ และ 5.คัดค้านการดำเนินการของรัฐบาลที่จะเข้าร่วมในความตกลงการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งจะทำให้ไทยต้องแก้ไขกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาที่มากกว่าความตกลงเรื่องทรัพย์สินทางปัญญาภายใต้องค์กรการค้าโลก (TRIPs) เช่น การเข้าร่วมในอนุสัญญา UPOV1991 เป็นต้น ซึ่งทำให้ต้องมีการแก้ไขกฎหมายคุ้มครองพันธุ์พืชที่เปิดทางให้มีการผูกขาดสายพันธุ์กัญชา สมุนไพรและพันธุ์พืชต่างๆ ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อความมั่นคงทางอาหารและยาของประเทศ อย่างไรก็ตาม หากกระทรวงพาณิชย์ดำเนินการตามข้อเรียกร้องในเบื้องต้น ก็จะเดินหน้าฟ้องศาลทรัพย์สิทางปัญญาและศาล ปกครองต่อไป

ด้านนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า มหาวิทยาลัยรังสิตได้รับการเชิญจากกระทรวงพาณิชย์ให้ไปร่วมหารือ เพื่อหาทางออกตามเงื่อนไขที่มหาวิทยาลัยเคยยื่นไว้ เช่น การยกเลิกคำขอจดสิทธิบัตร ทั้งนี้ จะมีการให้เหตุผลในสิ่งที่เรียกร้อง ส่วนหากไม่ได้ตามข้อเรียกร้องจะดำเนินการอย่างไรต่อไปนั้น ต้องขอดูก่อนเพราะขณะนี้ยังไม่ได้ร่วมหารือ

มติชนออนไลน์