เผยแพร่ |
---|
ปรากฏการณ์ที่พรรคเพื่อไทยจะเดินทางไปพบประชาชนในพื้นที่
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และได้รับการห้อมล้อมอย่าง อบอุ่น คับคั่งเป็นเรื่องธรรมดาอย่างยิ่ง
ไม่ว่าเมื่อ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ไม่ว่าเมื่อ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เดินทางไป
แต่ภาพที่เห็นจาก “ภาคใต้” ถือว่าไม่ธรรมดา
อย่าได้แปลกใจหากสื่อหนังสือพิมพ์บางฉบับจะพาดหัวด้วยความแปลกใจเมื่อทีมของพรรคเพื่อไทยเดินทางไปเยือนพัทลุงและนครศรีธรรมราช
ไม่เพียงแต่กับพรรคเพื่อไทยเท่านั้น หากแม้กระทั่งพรรคประ ชาชาติ พรรคไทยรักษาชาติ และพรรคเพื่อชาติ
นี่ย่อมเป็น”สัญญาณ”ใหม่ในทางการเมือง
สัญญาณนี้ไม่เพียงแต่พรรคประชาธิปัตย์เท่านั้นที่ต้องตระหนก
พรรครวมพลังประชาชาติไทยก็มีความจำเป็นต้องตื่นตัวเป็นอย่างสูง
ยิ่งคสช.และรัฐบาลอันมีพื้นฐานจากรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 ยิ่งต้องเพิ่มการเฝ้าระวังอย่างเป็นพิเศษ
เพราะว่าภาคใต้ถือได้ว่าเป็นพื้นที่ในความยึดครองของพรรค ประชาธิปัตย์มาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน โดยมี นายชวน หลีกภัย เป็นธงนำสำคัญ
สถานการณ์”มวลมหาประชาชน”ก่อนรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 ก็มี”ภาคใต้”เข้าหนุนเสริมอย่างคึกคัก
แต่เมื่อผ่านเดือนพฤษภาคม 2561 มาก็เริ่มแปรเปลี่ยน
แปรเปลี่ยนเมื่อมีพรรคประชาชาติ แปรเปลี่ยนเมื่อมีพรรคไทยรักษาชาติ แปรเปลี่ยนเมื่อมีพรรคเพื่อชาติ แปรเปลี่ยนเมื่อพรรคเพื่อไทยเดินทางไปเยือน
ยิ่งมีความพยายามจะ”เลื่อน”เลือกตั้งยิ่งจะแปรเปลี่ยน
อย่าคิดว่าพรรคประชาธิปัตย์ หรือพรรครวมพลังประชาชาติไทยจะยังผูกขาดในการยึดครองพื้นที่ภาคใต้อยู่เหมือนในกาลอดีต
ตรงกันข้าม การทะลวงของ”อนาคตใหม่”ก็น่ากลัว
ตรงกันข้าม การจัดแถวของพรรคเพื่อไทย พรรคประชาชาติ พรรคไทยรักษาชาติ พรรคเพื่อชาติ ก็น่ากลัว
น่ากลั้วว่าจะเกิดการแปรเปลี่ยนใน “ภาคใต้”
มติชนออนไลน์