เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 5 ม.ค. ที่ศูนย์ประสานงานพรรคพลังประชารัฐ เขตดินแดง-เขตห้วยขวาง นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค เป็นประธานเปิดศูนย์ประสานงานพรรคพลังประชารัฐ เขตดินแดง-เขตห้วยขวาง พร้อมเปิดตัว น.ส.อรพินทร์ เพชรทัต ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตดินแดง-ห้วยขวาง โดยมีนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รองหัวหน้าพรรค นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ กรรมการบริหารพรรค และนายสกลธี ภัททิยกุล กรรมการบริหารพรรค พร้อมประชาชนผู้สนับสนุนเข้าร่วมประมาณ 300 คน

นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า เราถูกปรามาสว่าพปชร.ได้ไม่กี่ที่นั่ง แต่ตนมั่นใจอย่างน้อย 15 ที่นั่งแน่นอน รับรองว่าพรรคเพื่อไทยมีหนาว เพราะเราจะเอาเก้าอี้ในกทม. ของพรรคเพื่อไทยไปให้ได้ สิ่งที่พูดไม่ได้เพ้อฝัน ทุกคนปรามาสเรา เพราะไม่มองพปชร.อยู่ในสายตา แต่วันนี้ประชาชนเอาพปชร.ไว้ในหัวใจ ใครปรามาสเราไม่สน กว่าเราจะได้คนนี้มาอยู่พปชร.ไม่ได้ง่าย ตนไม่อยากพูดถึงบางคนพูดดีพูดเก่ง แต่เคยอยู่ในพื้นที่หรือไม่

อย่างแฟลตดินแดงเป็นความตั้งใจ เราไม่ได้บอกเป็นผลงานเรา แต่คิดเหมือนเรา จะทำแฟลตให้ดีกว่าเดิม อยากได้ห้องใหญ่กว่านี้ ค่าส่วนกลางลดกว่านี้ พปชร.จะทำให้พี่น้อง และได้ยินแว่วๆ มาตลาดห้วยขวางกำลังจะเป็นตลาดประชารัฐแห่งแรก ดินแดงกำลังจะเป็นพื้นที่ทองคำ ขอให้อดทน ใจกลางกทม.จะเป็นพื้นที่ชั้นในที่เจริญแน่นอน เราไม่เคยทิ้งพื้นที่ดินแดง และห้วยขวางเป็นพื้นที่ใครไม่ทราบ แต่อีก 3 เดือน ส.ส.ขอให้น.ส.อรพินทร์ และพปชร. ทั้งนี้พวกตนมาอยู่ตรงนี้มีเรื่องเดียว ต้องการก้าวข้ามความขัดแย้ง ถ้าไปอยู่อีกพรรคมีปัญหาอีก ขอให้เดินไปข้างหน้าโดยไม่ต้องห่วงเลื่อนเลือกตั้งช้าหรือเร็ว ขอคนห้วยขวางมีในใจพรรคเดียวคือ พปชร.

ขณะที่นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า แต่ละยุคมีพรรคการเมืองอาสามา แต่ยังไม่ทำให้เราสมหวัง พรรคที่มีอยู่ก็ทำให้เราผิดหวัง เพราะไม่ปรับวิธิคิดวิธีทำงาน แต่พปชร.รวมบุคลากรที่มีคุณภาพ เก่งแต่ละด้าน ที่มาเพราะบ้านเมือง ถ้าไม่มีพปชร. ก็อาจกลับไปขัดแย้งแบบเดิมๆ สังคมประเทศเราใครขึ้นมาสู้กัน ใครขึ้นมามีอำนาจก็ไม่ยอม เป็นสิบๆ ปี สมมุติวันนี้ไม่มีพปชร.ลองคิดตามดู หากไม่มีพปชร.หลังเลือกตั้งเราเห็นผลในอนาคต เลือกตั้งมีพรรคหนึ่งชนะ มีพรรคหนึ่งคนกทม.ไว้วางใจ แต่ไม่ได้เสียงเป็นที่หนึ่ง ดูจากสถิติบ้านเมืองไม่สงบสุขมา 10 ปี ถ้าไม่มีพปชร.คิดว่าประเทศจะเป็นอย่างไร พูดไปเดี๋ยวหาว่าดูแคลน แต่เรียนรู้จากอดีต ดูกงล้อที่เกิดขึ้นในอนาคต พวกเราทนไม่ไหว จึงต้องมีขั้วใหม่นั่นคือ พปชร.

นายสนธิรัตน์ กล่าวอีกว่า พรรคนี้ไม่มีใครเป็นเจ้าของ แต่เจ้าของคือ ประชาชนทุกคน เราจะเลือกคนเข้าใจพี่น้อง เหมือนเลือกผู้สมัครเขตดินแดง-ห้วยขวาง พปชร.คือ ศูนย์รวมของทุกคนจะไม่เอาอีกแล้วความขัดแย้ง และไม่ปล่อยให้นักการเมืองบริหารประเทศ แต่เราตะเอาพี่น้องมารวมกันเป็นเจ้าของพรรค และร่วมบริหารงานในฐานะประชารัฐ ช่วยออกความคิดเห็นในการบริหารประเทศ และจะไม่ตั้งเงื่อนไขไม่เอาคนนั้นคนนี้ รัฐบาลนี้ที่มีพวกตนอยู่ร่วมทำงานมากว่า 4 ปี ได้สร้างอะไรมากมายมหาศาล เยอะกว่ารัฐบาลที่ทำมากว่า 10 ปีเสียด้วยซ้ำ

เพียงแต่รัฐบาลนี้ไปเน้นความสงบ เราสร้างความอบอุ่นหัวใจ วางโครงสร้าง 4 ปีนี้พิสูจน์แล้ว และพปชร.จะนำความสงบสู่ประเทศอย่างแน่นอน เรารู้ดีว่าหัวใจของคนไทยทุกคนเรียกร้องความสุข ความสงบ พปชร.จึงอาสานำมาสู่สังคมและประเทศไทย และเราจะทำต่อคือ แก้ปัญหาจราจรในกทม. เพราะรัฐบาลในอดีตปล่อยให้มีนโยบายที่ทำให้มีรถยนตร์จำนวนมากกว่าถนนที่รองรับอยู่ รถออกมามากไม่รู้ใครทำรถติด ผ่านไปหลายปีก็แก้ไม่ได้ อีก 4 ปีข้างหน้า ใน พ.ศ.2566 รอดูดินแดง ห้วยขวาง ขึ้นรถไฟฟ้าไปได้ 20 นาทีจะสบายกว่าลอนดอน ต้องเลือกพปชร. อีก 4 ปีรถไฟฟ้ากทม.จะดีกว่านิวยอร์ก เชื่อว่าพปชร.จะทำประเทศอยู่อย่างมีความสุขแน่นอน ดังนั้นช่วงนี้เราต้องยอมเจ็บเพื่อรอเวลาให้โครงข่ายจราจรได้มีครบถ้วน