เวิล์ด อีโคโนมิค ฟอรั่ม (WEF) ได้เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า การเปลี่ยนมาบริโภคโปรตีนทางเลือกแทนบริโภคเนื้อสัตว์ จะสามารถช่วยชีวิตสัตว์นับล้านชีวิตและค่อยๆลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยงานวิจัยที่จัดทำขึ้นโดยสถาบันออกซ์ฟอร์ด มาร์ติน ในการสนับสนุนของ (WEF) ได้เปิดเผยการศึกษาที่แสดงให้เห็นว่า ความพยายามในการเปลี่ยนมาบริโภคโปรตีนชนิดอื่นแทนเนื้อสัตว์โดยเฉพาะเนื้อวัว สามารถช่วยทำให้สุขภาพมนุษย์และสิ่งแวดล้อมดีขึ้น พร้อมระบุว่า อัตราการเสียชีวิตทั่วโลกจากอาหาร 2.4% สามารถหลีกเลี่ยงได้ด้วยการหลีกเลี่ยงบริโภคเนื้อวัว และสำหรับประเทศที่พัฒนาแล้ว การเสียชีวิตถึง 5% สามารถหลีกเลี่ยงได้

แม้ตัวงานวิจัยไม่ระบุว่ามีประชาการเสียชีวิตจากการบริโภคเท่าไหร่ ไม่ว่าจากโรคหรือสภาพร่างกาย แต่ WEF ยังคงยืนยันว่าการเปลี่ยนหันมาบริโภคโปรตีนทางเลือก สามารถยับยั้งการเสียชีวิตโดยไม่จำเป็นมากถึงปีละล้านคน

รายงานได้วิเคราะห์โปรตีนจาก 13 แหล่ง ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์ต่างๆ ยังรวมถึงผลไม้ ผักจำพวกถั่ว โปรตีนเกษตรจากถั่วเหลืองและผลิตภัณฑ์อื่นจากแมลง พบว่าการเปลี่ยนจากการกินเนื้อมาเป็นโปรตีนทางเลือก ส่งผลทั้งบวกและลบต่อโภชนาการ แต่เหนืออื่นใด การบริโภคทางเลือกเพิ่มขึ้นยิ่งทำให้สุขภาพดีขึ้น อย่างถั่ว โปรตีนเซลล์เดียวและถั่วเมล็ด จะช่วยเรื่องสุขภาพและลดอัตราการเสียชีวิตมากถึง 7%

นอกจากนี้ รายงานระบุว่า ฟาร์มปศุสัตว์เป็นตัวคุกคามต่อชั้นบรรยากาศมาถึง 3 เท่า อย่างสัตว์เนื้อจะผลิตก๊าซมีเทนปริมาณมหาศาลซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจก และยังใช้น้ำปริมาณมากในการทำฟาร์มปศุสัตว์

นายมาร์โก แลมเบอร์ตินี่ หัวหน้าต่างประเทศของกองทุนสัตว์ป่าโลกกล่าวว่า หลักฐานนี้ชี้ชัดว่า ระบบอาหารของเราจำเป็นต้องเปลี่ยนรูปแบบเพื่อประโยชน์ต่อโลกและอนาคตของมนุษยชาติ และเราเป็นชนรุ่นสุดท้ายที่สามารถทำอะไรได้ก่อนระบบจะพังทลาย