สมาคมทนายความฯ ห่วง “ป.ป.ช.” เสื่อมศรัทธา ปม “นาฬิกาหรู” อนาคตทุจริตหนักขึ้น

วันที่ 30 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเฟซบุ๊กของสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ได้เผยแพร่ข้อความซึ่งเขียนโดย นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย โดยระบุว่า ความเห็นกรณีมติของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่มีมติเสียงข้างมาก 5:3 ที่วินิจฉัย เรื่องของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่ไม่ชี้แจงบัญชีทรัพย์สินคือ แหวนเพชรและนาฬิกาหรู ว่า ไม่มีมูลเพียงพอให้เชื่อว่า พลเอกประวิตร จงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จหรือปกปิดบัญชีทรัพย์สิน โดยอ้างเพียงว่า “นาฬิกาเป็นของเพื่อน แหวนเป็นของแม่”

ซึ่งในกรณีคำวินิจฉัยดังกล่าวผมมีความกังวลและห่วงใย เกี่ยวกับคำวินิจฉัยของ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่ใช้ช่องว่างของกฎหมายทำลายแนวคำวินิจฉัยและบรรทัดฐานเดิม ในการตรวจสอบความทุจริตของข้าราชการและนักการเมืองในประเทศนี้ รวมถึงความน่าเชื่อถือขององค์กรอิสระที่ชื่อ คณะกรรมการปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)

ซึ่งคำวินิจฉัยนี้จะทำให้เกิดอุปสรรคในการปราบปรามการทุจริตในประเทศชาตินี้ต่อไปอย่างใหญ่หลวง อีกทั้งยังขัดกับคำพูดของ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่เคยกล่าวไว้ สมัยเมื่อปฎิวัติรัฐประหารยึดอำนาจเมื่อพฤษภาคม พ.ศ. 2557 ว่า คสช. จะเข้ามาแก้ไขปราบปรามปัญหาเรื่องการทุจริตและคอร์รัปชั่นของนักการเมืองให้หมดไปจากประเทศไทย

ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นจากการกระทำของ ป.ป.ช. เป็นสิ่งที่น่ากังวลว่าประเทศไทยจะหาความยุติธรรมและประชาชนจะเชื่อถือในองค์กรอิสระของประเทศไทยได้อย่างไร ซึ่งจะสอดคล้องกับคำกล่าวของ มงแต็สกีเยอ นักวิพากษ์สังคมและนักคิดทางการเมืองชาวฝรั่งเศสว่า “ไม่มีความเลวร้ายใด ที่จะยิ่งไปกว่าความเลวร้ายที่ได้กระทำโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมายหรือในนามของกระบวนการยุติธรรม”