“อนาคตใหม่” ชี้ต้องเร่งพัฒนาขนส่งสาธารณะ แก้วิกฤตภาวะฝุ่นควัน

เมื่อวานนี้ (วันที่ 22 ธันวาคม 2561) จากกรณีกรมควบคุมมลพิษเตือนมลพิษในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ระบุสาเหตุสำคัญมาจากฝุ่นควันรถนั้น นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ นักวิชาการด้านวิศวกรรมขนส่ง ที่ปรึกษาด้านนโยบายคมนาคมพรรคอนาคตใหม่ และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า การพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะต้องดำเนินการให้เร็วที่สุด เพราะปัญหามลภาวะเป็นพิษขั้นวิกฤต เกิดขึ้นเร็วกว่าที่คิด

เราได้ยินบ่อยมาก คำว่ามลภาวะเป็นพิษ แต่ไม่ชัดเจนเท่ากับช่วง 3-4 วันที่ผ่านมาที่กรุงเทพมหานครถูกปกคลุมด้วยควันขาวคล้ายหมอก ซึ่งสภาพอากาศดังกล่าวส่งผลเสียต่อสุขภาพ สาเหตุหลักมาจากควันรถยนต์บวกกับสภาพอากาศปิด ทำให้มีการสะสมของฝุ่นเพิ่มมากขึ้น ปัญหานี้เป็นการตอกย้ำว่า ประเทศไทยควรจริงจังกับการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะเพื่อลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวลง นำงบประมาณไปพัฒนาระบบราง แทนที่จะนำมาตัดถนนเพิ่ม เพราะการเพิ่มถนนไม่ช่วยแก้ปัญหาการจราจร อีกทั้งยังเพิ่มปริมาณรถยนต์ด้วย

“พรรคอนาคตใหม่ได้เสนอนโยบายพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ เพื่อประชาชนจะได้รับความสะดวกสบายในการเดินทาง และหากการขนส่งมวลชนมีประสิทธิภาพ ประชาชนเกิดความเชื่อมั่น พฤติกรรมการใช้รถยนต์ส่วนตัวก็จะลดน้อยลงและหันมาใช้บริการขนส่งสาธารณะมากขึ้น” นายสุรเชษฐ์ กล่าว

ที่ปรึกษานโยบายคมนาคมกล่าวอีกว่า อีกหนึ่ง หน้าที่หลักของรัฐบาลควรมีการรณรงค์ให้ความรู้ประชาชนอย่างจริงจังถึงค่าใช้จ่ายในการเป็นผู้ครอบครองรถยนต์ส่วนตัวว่ามีค่าใช้จ่ายมากมายขนาดไหน เทียบกับการใช้บริการขนส่งสาธารณะแล้วสามารถประหยัดค่าเดินทางได้มาก

“การแก้ปัญหาทั้งหมดนี้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องจัดสรรงบประมาณให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนอย่างแท้จริง สร้างระบบขนส่งสาธารณะให้มีประสิทธิภาพ พร้อมรองรับผู้ใช้บริการ ไม่ใช่ทุ่มงบประมาณไปกับการซ่อมถนน ต้องเพิ่มทางเลือกให้ประชาชน การพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะไม่ใช่แค่แก้ปัญหาการจราจรแต่ยังแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม พัฒนาระบบเศรษฐกิจ ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนด้วย การพัฒนาไม่ใช่แค่เรื่องใดเรื่องหนึ่งแต่ต้องเชื่อมโยงกัน” นายสุรเชษฐ์ กล่าว

สำหรับนโยบายด้านคมนาคมของพรรคอนาคตใหม่ อาทิ 1.ยกเลิกโครงการคมนาคมที่ซ้ำซ้อน เพื่อนำงบประมาณกลับมาพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะเพื่อคนส่วนใหญ่ 2.พัฒนาระบบรางให้ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยเส้นหลักต้องเป็นทางคู่ 3.พัฒนาขนส่งระบบรอง เช่น รถบัส หรือ รถมินิบัส เชื่อต่อชุมชนกับขนส่งมวลชนหลักอย่าง สถานนีรถไฟและสนามบิน 4.ให้อำนาจท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเลือกระบบขนส่งสาธารณะ และที่สำคัญที่สุดที่พรรคอนาคตใหม่เสนอคือ การสร้างอุตสาหกรรมรถไฟในประเทศ ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ เพื่อลดการใช้รถยนต์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมลพิษนั่นเอง