วันที่ 20 ธันวาคม 2561 ดร.รยุศด์ บุญทัน รองโฆษกพรรคเพื่อชาติ ได้กล่าวถึงกรณีที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. ระบุ จะไม่ใช้คำสั่งตามมาตรา 44 แก้ไขบัตรเลือกตั้งให้เป็นบัตรเดียวเบอร์เดียว ทั่วประเทศ อ้างไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ใช่จะใช้คำสั่ง มาตรา 44 อยู่ตลอดเวลา ซึ่งการกล่าวเช่นนั้นของพลเอกประยุทธ์ ไม่ได้แสดงให้เห็นถึงข้อเท็จจริงที่ผ่านมา อาจจะด้วยนายกรัฐมนตรีมีอายุมากแล้ว อาจจะมีปัญหาเรื่องความจำ จึงทำให้หลงลืมว่าที่ผ่านมา มักจะกลับคำพูดไปมาเสมอ ขึ้นอยู่กับอารมณ์ในแต่ละวัน และหลายครั้งเมื่อพูดไปแล้ว ไม่ถูกใจประชาชาชน หรือถูกกระแสสังคมกดดันอย่างหนัก ก็มักจะเปลี่ยนท่าที การสื่อสารทางการเมืองเช่นนี้ แสดงให้เห็นถึงการขาดภาวะความเป็นผู้นำของนายกรัฐมนตรี

รองโฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าวต่อว่า นับจากนี้อีกไม่นาน พลเอกประยุทธ์ จะถูกกระแสกดดันและเรียกร้องจากสังคมให้ ใช้ ม.44 เพื่อมาใช้แก้ปัญหากรณีนี้ และตนก็เชื่อว่า นายกรัฐมนตรี ก็จะกลับคำพูดอีกครั้งนำ ม.44 มาใช้ และยิ่งใกล้เลือกตั้งไปทุกที หากทำอะไรที่สวนทางกับสังคมย่อมไม่ส่งผลดี กับพลเอกประยุทธ์แน่นอน

“เช่นเดียวกับกรณีที่ พลเอกประยุทธ์ ได้กล่าวถึงนายจตุพร พรหมพันธุ์ กองเชียร์พรรคเพื่อชาติ ที่ออกมาระบุว่า พลเอกประยุทธ์จะลาอกจากตำแหน่ง ว่า ให้ไปถามนายจตุพร เพราะตนเองไม่เคยพูด และจะขอทำหน้าที่จนกว่าเสร็จสิ้นภารกิจ ขออย่ากดดัน พร้อมถามกลับว่า ประเทศชาติ ประชาชน ต้องการความสงบสุขของบ้านเมือง ต้องการให้มีการเลือกตั้งหรือไม่ ดังนั้น ถ้าไม่อยากให้กลับไปเป็นแบบเดิม ก็ต้องแก้ไขตัวเอง แต่หากพูดให้ร้ายกันแบบเดิม ประเทศชาติก็ไปไม่ได้ การเมืองคือการบริหารราชการแผ่นดิน และนำคนดี คนเก่ง ซื่อสัตย์โปร่งใส ไม่ประพฤติเสียหาย มาบริหารราชการแผ่นดิน คนเหล่านี้ต้องได้รับการพิจารณาจากประชาชน ใครที่ทำความผิด สร้างความเสียหายเดือดร้อนให้กับประชาชน ไม่ควรได้รับการสนับสนุน” ดร.รยุศด์ กล่าว

โดยรองโฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าวเห็นด้วยกับคำพูดของ หัวหน้า คสช. ว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่ประชาชนต้องตัดสินใจเลือกคนดี ซื่อสัตย์ และโปร่งใส มาบริหารประเทศ เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเกือบ 5 ปี ต้องถามกลับนายกฯ ว่า ได้บริหารประเทศด้วยความโปร่งใสจริง หรือไม่ ไม่มีการทุจริต หรือตรวจสอบไม่ได้ ขณะที่ยังมีรัฐมนตรีบางคนใส่นาฬิการาคาเรือนหลักล้าน แต่ประชาชนในประเทศยังยากจนอยู่ และต้องยอมรับว่าทุกวันนี้ประชาชนได้รับความยากลำบาก มีปัญหาเรื่องปากท้อง แม้รัฐบาลจะประกาศอยู่เสมอว่าเศรษฐกิจดี

“แต่ตนเข้าใจได้เพราะรัฐบาลนี้มาจากการยึดอำนาจ ไม่เข้าใจประชาชน ไม่เคยผ่านการเลือกตั้ง จึงไม่เข้าใจปัญหาของประชาชนอย่างแท้จริง ดังนั้นการที่พลเอกประยุทธ์ บอกให้ประชาชนเลือกคนดี คนเก่ง มาบริหารประเทศนั้น ข้อนี้ท่านต้องตระหนักให้มากว่า ที่ผ่านมาในการทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี บริหารประเทศมายาวนาน ท่านได้ทำให้ประเทศดีขึ้นเหมือนที่กล่าวมาหรือไม่ ตนเชื่อว่าประชาชนรู้ดี แล้วตนอยากให้ทุกคนคอยดูว่าเมื่อวันเลือกตั้งมาถึง แม้ท่านจะได้เปรียบ และเอาเปรียบทุกเม็ด แต่ตนก็เชื่อมั่นในพลังของประชาชน ที่จะเป็นคนกำหนดอนาคตของประเทศ และก็มั่นใจว่าประชาชนจะตัดสินใจเลือกพรรคการเมืองที่อยู่ฝากฝั่งประชาธิปไตยอย่างแน่นอน” รองโฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าว

ในส่วนกรณีของคำตอบ นายจตุพร พรหมพันธุ์ กองเชียร์พรรคเพื่อชาติ ที่จะมีกลับไปยังนายกรัฐมนตรีนั้น ดร.รยุศด์ กล่าวว่า อยากให้สื่อมวลชนมาฟังคำตอบจากปากของท่านเอง โดยจะมีการแถลงในเร็วๆนี้