“แม่น้องเกด” เดือด! ทำจม.เปิดผนึกจี้ถาม ว่าที่ กสม. เหตุวอนสื่อเบรกเสนอข่าว 6 ศพวัดปทุมฯ

วันที่ 19 ธันวาคม 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางพะเยาว์ อัคฮาด มารดาของน.ส.กมลเกด อัคฮาด 1 ใน 6 ผู้เสียชีวิตจากการยิงของเจ้าหน้าที่ทหารภายในวัดปทุมวนาราม ในช่วงการสลายผู้ชุมนุมแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติปี 2553 ได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึง นางสมศรี หาญอนันทสุข กรรมการสมาคมสิทธิเสรีภาพประชาชนและว่าที่กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้กล่าวตอนหนึ่งในงานเสวนา เสนอไม่ให้สื่อเสนอข่าวช่วงเลือกตั้งโดยเฉพาะเหตุ 6 ศพ วัดปทุมฯ โดยนางพะเยาว์ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า

ตามที่ท่านได้ให้ความเห็นในการเสวนาจัดโดยสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ เรื่อง Media Forum ครั้งที่ 6 เรื่อง บทบาทสื่อและการรับมือสงคราวข่าวสารช่วงการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2561 โดยได้เสนอให้สื่อมวลชนไม่นำเสนอข่าวในช่วงเลือกตั้ง ของเหตุการณ์การสลายการชุมนุมปี 2553 โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหตุการณ์ที่ทหารฆ่าประชาชน 6 คนที่วัดปทุมวนาราม นั้น

ดิฉันในฐานะแม่ของผู้เสียชีวิตรู้สึกสะเทือนใจและเสียใจกับข้อเสนอดังกล่าวยิ่งนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นความเห็นของบุคคลที่กำลังจะผ่านการพิจารณาให้เป็นกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ซึ่งจะเข้าไปทำหน้าที่พิทักษ์รักษาสิทธิ์ของประชาชนคนทั้งประเทศ

ดิฉันขอเรียนต่อท่านว่า เหตุการณ์การล้อมปราบเมื่อปี 2553 นั้นชัดเจนแล้วว่าใครคือผู้มีส่วนในการล้อมปราบครั้งนั้น เช่น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ หรือพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา รวมทั้งบรรดานายทหารทั้งหมดที่ร่วมปฏิบัติการ ซึ่งบุคคลดังกล่าวได้เสนอตัวเข้าสู่เวทีการเมืองเพื่อให้ประชาชนตัดสินใจ

ดังนั้น ดิฉันซึ่งเป็นผู้เสียหายในเหตุการณ์ดังกล่าวรวมทั้งประชาชนทั่วไปจึงมีสิทธิ์ที่จะให้ข้อมูลและรณรงค์ให้เห็นถึงการกระทำที่ดิฉันเห็นว่าสังคมควรรับทราบเพื่อประกอบการตัดสินใจลงคะแนนในครั้งนี้ และพร้อมจะรับผิดชอบต่อการกระทำที่เกิดขึ้นด้วย

การที่ท่านเสนอให้สื่อไม่ให้ความสนใจหรือไม่ให้เสนอข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวจึงเป็นข้อเสนอที่อาจนำไปสู่การจำกัดสิทธิของดิฉันและประชาชนที่จะได้รับทราบข้อมูลข่าวสารเพื่อประกอบการตัดสินใจลงคะแนนเสียงเลือกตั้งในครั้งนี้ และเป็นการทำให้ความผิดที่บุคคลที่มีส่วนล้อมปราบประชาชนได้เกลื่อนกลืนและสูญหายไปในที่สุดจนมิอาจนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษได้

การแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ และเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย รวมทั้งสื่อมีหน้าที่ที่จะต้องนำเสนอข่าวสารอย่างตรงไปตรงมาเพื่อความยุติธรรมในสังคม ไม่ว่าท่านจะได้เสนอความเห็นในฐานะส่วนตัวที่อาจไม่ได้เห็นความสำคัญของการเอาผู้กระทำผิดมาลงโทษ หรือให้ความเห็นในฐานะตัวแทนองค์กรสิทธิมนุษยชนใดๆ ดิฉันรู้สึกสะเทือนใจและเสียใจกับการแสดงออกของท่านในครั้งนี้

จึงขอส่งจดหมายเปิดผนึกฉบับนี้ถึงท่าน และเผยแพร่ให้สาธารณะชนได้รับทราบและวิพากษ์วิจารณ์ต่อไป