ภูมิใจไทย – เมืองคอนฯ แนะ ทางแก้น้ำท่วมยั่งยืน รัฐต้องเชื่อประชาชน !

รัฐต้องเชื่อประชาชน ! ภูมิใจไทย – เมืองคอนฯ แนะ ทางแก้น้ำท่วมยั่งยืน

ดร.รวิศรา ทิศนุ่น สมาชิกพรรคภูมิใจไทย ให้ความเห็นถึงปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ว่า ประชาชนพบเจอสภาพดังกล่าวจนรู้สึกกลายเป็นเหมือนชะตากรรมที่ต้องเสียสละและยอมรับความเดือดร้อน อย่างไรก็ตาม ส่วนตัว มองว่าทุกปัญหามีทางออก อยากให้เริ่มจากส่วนกลาง ผู้นำบ้านเมือง ต้องเปิดโอกาสให้พี่น้องประชาชนได้สะท้อนปัญหา เพื่อการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน มากกว่าการแก้ไขปัญหาด้วยถุงยังชีพและโครงการที่วาดกันในห้องแอร์

“เราต้องพิจารณาตั้งแต่บนเขาทำอย่างไรในหน้าน้ำหลาก อ่างเก็บน้ำที่มีมีประสิทธิภาพและสามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพจริงหรือไม่ทั้งในหน้าฝนและหน้าแล้ง เส้นทางการระบายของน้ำมีสิ่งกีดขวางที่เกิดจากการพัฒนาถนนหนทางหรือบ้านเมืองในเขตเมืองเขตเศรษฐกิจหรือไม่ ถนนที่เป็นเส้นทางขวางมีทางระบายหรือไม่ คูท่อระบายในเมืองมีประสิทธิภาพในการระบายน้ำได้ดีแล้วหรือไม่

สิ่งเหล่าคือสิ่งที่ต้องอาศัยภูมิปัญญาและความเข้าใจในสภาพแต่ละพื้นที่มาร่วมในการหาแนวทางแก้ไขเพื่อความยั่งยืนบนโครงสร้างที่เรามีอยู่เพื่อความเป็นอยู่ของประชาชนที่ดีทั้งในหน้าแล้งและในหน้าฝนนั่นเอง”

ด้านนายละม้าย เสนขวัญแก้ว สมาชิกพรรคภูมิใจไทย อดีตรองนายก อบจ.นครศรีธรรมราช และประธานบริหารจัดการหนี้กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สมาชิกพรรคภูมิใจไทย ตนเป็นคนลุ่มน้ำปากพนัง เรื่องน้ำท่วมเกิดขึ้นซ้ำซาก คนนครศรีธรรมราชต่างรู้ว่า เมืองนครฯ มีอยู่ 2 ฤดู คือ ฤดูน้ำท่วม กับฤดูน้ำแล้ง ปัญหามาจากพื้นที่ซับน้ำเหลือน้อย ขณะที่ภาครัฐเน้นแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า โดยไม่คำนึงถึงผลที่ตามมาในระยะยาว

เมื่อน้ำหลากลงมา ภาครัฐเร่งระบายน้ำออกทะเลให้เร็วที่สุด ไม่คิดจะกักน้ำไว้ใช้ในอนาคต เป็นแบบนี้ทุกปี ดังนั้น หลังปีใหม่ เกษตรกร ประชาชน ต้องประสบกับปัญหาน้ำแล้ง ตนเคยนำเรื่องนี้ไปคุยกับส่วนกลางแล้ว มีเอกสารแผนการ ขอแค่จริงจัง จริงใจแก้ปัญหา ก็ร่วมมือกันทำงานได้เลย ทางนั้นรับฟัง แต่ไม่เคยมีการปฏิบัติตาม ทุกวันนี้ ลองบริหารจัดการน้ำในพื้นที่เกษตรของตัวเอง ด้วยหลักคิดขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 คือ ต้องมีการระบาย และเก็บน้ำ พื้นที่เกษตรของตนไม่เคยประสบปัญหาน้ำ

กลับมาที่สถานการณ์ปัจจุบัน ส่วนตัวมองว่า ภาพออกมาดูน่ากลัว น้ำไหลเข้าเมือง แต่คิดว่าไม่ใช่สถานการณ์วิกฤติ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า จะมีน้ำหลากลงมาอีกระลอก หากไม่รับมือกันให้ดี สถานภารณ์ที่เกิดขึ้นตอนนั้น น่าเป็นห่วงกว่าตอนนี้