ทนายวิญญัติ จี้ถาม คสช.ปลดล็อกตรงไหน ถ้ายังใช้อำนาจเรียกตัว-ตรวจค้นอยู่

เมื่อวานนี้ (11 ธันวาคม 2561) หลังราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่คำสั่งหัวหน้าคสช. ที่ 22/2561 ปลดล็อกทางการเมือง ยกเลิกคำสั่งคสช. 9 ฉบับ ให้พรรคการเมืองเคลื่อนไหวทำกิจกรรมทางเมือง หาเสียง ผ่านสื่ออิเล็กทอนิกส์, ชุมนุมการเมืองเกิน 5 คนได้ ยกเลิกระงับการทำธุรกรรมการเงิน ให้ 18 นักการเมืองเคลื่อนไหวทางการเมืองเดินทางออกนอกประเทศได้นั้น  นายวิญญัติ ชาติมนตรี เลขาธิการสมาพันธ์นักกฎหมายเพื่อสิทธิและเสรีภาพ (สกสส.) โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ดีใจกันไป สำหรับใครที่ได้รับผลดีจากการคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 22/2561 อดภูมิใจถึงความใจดีขนาดนี้แทบไม่ไหว เหมือนได้ขึ้นสวรรค์ ลืมไปเลยว่าเคยตกอยู่ในชะตากรรมกล้ำกลืนขืนใจ

คำสั่งนี้หลายคนเรียก“ปลดล็อกทางการเมือง” ได้ทำกิจกรรม หาเสียง วางป้าย ปราศรัย ออกงานหรือบางคนสมคบกันคิดกลโกง แล้วยังทำให้บางคนได้บัญชี ทำธุรกรรมทางการเงินได้

แต่บางคนที่ถูกหาว่าหลบหนี เพราะไม่ยอมรับอำนาจที่มาจากการยึดอำนาจ เช่น นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ ยังถูกห้ามทำธุรกรรมทางการเงิน ถูกอายัดเงินเดือนเดือนสุดท้ายในตำแหน่งรมว.มหาดไทย เงินบำนาญตำแหน่งปลัดยุติธรรมตั้งแต่พ.ค. 2557

ขณะที่การใช้อำนาจทางอ้อมต่างๆ ทั้งต่ออดีตนายกรัฐมนตรี อดีตนักการเมือง อดีตข้าราชการประจำและอีกหลายคน ทำไมจึงไม่ปลดล็อก

ที่ยกเลิกคำสั่งที่ 3/2558 เฉพาะข้อ 12 ความผิดมั่วสุม หรือชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ไม่ต้องถูกห้ามแล้ว เหมือนจะดี เพราะอาจมีบางคนหลงดีใจกับบรรยากาศเข้าสู่โหมดเลือกตั้ง แล้วมองผู้มีอำนาจปกครองยอมถอย ยอมให้คนทุกคนได้สิทธิของตนคืนมา ความจริงผมกลับมองตรงข้าม

เพราะข้ออื่นๆของคำสั่งที่ 3/2558 ยังมีผลใช้บังคับอยู่ ประชาชนหรือหัวคะแนนคนใดไม่เข้าตาอาจต้องโดนอำนาจเรียกรายงานตัว จับกุม ตรวจค้น ยึด อายัดทรัพย์สิน ควบคุมตัวเพื่อสอบถาม

รวมถึงสื่อมวลชนก็ยังห้ามเสนอข่าวที่ทำให้ตีความว่ากระทบความมั่นคงของชาติ หรือความสงบเรียบร้อย ถ้อยคำภาษากฎหมายที่กว้าง เปิดช่องให้เจ้าหน้าที่คนถือกฎหมายตีความเป็นผลร้ายยังอยู่เหมือนเดิม

อ้าว.. มันปลดล็อกตรงไหนกัน! กฎหมายยุคนี้อยากใช้บังคับใครก็ใช้ ไม่อยากให้บังคับกับใคร แบบนี้ก็ได้เหรอ?