‘หญิงหน่อย’ อัดจิตสำนึก ประยุทธ์หมวกหลายใบ หวั่นกติกากลไกต่างๆ บิดเบี้ยว อำนาจรัฐแทรก

เมื่อเวลา 07.50 น. วันที่ 8 ธ.ค. ที่ตลาดอมรพันธุ์ ถ.เสนานิคม 1 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย (พท.) พร้อม นายวัฒนา เมืองสุข ร.ท.หญิง สุณิสา ทิวากรดำรง นายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส ตัวแทนคนรุ่นใหม่ Next Gen พรรคเพื่อไทย

เมื่อเวลา 07.50 น. วันที่ 8 ธ.ค. ที่ตลาดอมรพันธุ์ ถ.เสนานิคม 1 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย (พท.) พร้อม นายวัฒนา เมืองสุข ร.ท.หญิง สุณิสา ทิวากรดำรง นายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส ตัวแทนคนรุ่นใหม่ Next Gen พรรคเพื่อไทย

หากปลดล็อกเราก็มีโอกาสฟังปัญหาของประชาชน และนำมาทำนโยบายได้อย่างสมบูรณ์ แต่สิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้ คือมีปัญหาว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ เหมือนไม่ค่อยเป็นประชาธิปไตย เนื่องจากถูกคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ห้ามหลายอย่าง ไม่ให้ปฏิบัติตามกฎหมายเลือกตั้ง ดังนั้นประชาชนจะเสียโอกาสในการร่วมคิดร่วมทำนโยบาย กับพวกเรา ซึ่งจะเป็นผู้ที่เข้าไปทำงาน

เมื่อถามว่ามีความกังวลหรือไม่ เพราะเหมือนว่าคณะกรรมการกลาง กลับถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าลงมาเป็นผู้เล่นเอง คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า วันนี้ต้องถามความชัดเจนกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. ว่าเขาจะเลือกบทบาทไหน ระหว่างบทบาทการเป็นกรรมการกลาง ที่กล่าวอ้างอยู่ ซึ่งหากเลือกที่จะเป็นในบทบาทนี้ ก็ต้องไม่ลงมาสมัครเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรคการเมือง ถึงจะทำหน้าที่เป็นกรรมการกลางได้

แต่ถ้าจะลงสมัครเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคการเมือง ซึ่งก็ไม่ผิดอะไรสามารถทำได้ แต่ก็ไม่ควรที่จะสวมหมวก การเป็นกรรมการกลาง แล้วใช้อำนาจทางการเป็นหัวหน้าคสช. อำนาจนายกฯ ซึ่งจะทำให้เกิดข้อกังวลได้ว่าการใช้อำนาจทั้งสองอย่างที่ กล่าวข้างต้นแทรกแซงองค์กรอิสระ จะทำให้เกิดความหวั่นวิตกได้ ว่าจะสามารถใช้อำนาจแทรกแซงได้

“เราได้เห็นตัวอย่าง เช่น การออกประกาศคำสั่งหัวหน้าคสช.แบ่งเขตเลือกตั้งที่ผิดกฎหมาย เพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมาย และเมื่อวาน (7 ธ.ค.) ตนได้ทราบข่าวซึ่งไม่รู้ว่าเป็นข้อเท็จจริงหรือไม่ว่า มีความเห็นจากหัวหน้าคสช. ว่าให้บัตรเลือกตั้งไม่ควรที่ จะใส่ชื่อพรรคการเมือง หรือโลโก้พรรคการเมือง ซึ่งตรงนี้เราต้องเข้าใจหลักการของประชาธิปไตยก่อน คือการที่พรรคการเมืองจะต้องเฟ้นหาผู้สมัคร หาคนที่จะมาเสนอตัวให้ประชาชน รวมถึงมีคุณสมบัติดีพอที่จะให้ประชาชนเลือก และดีพอที่จะทำงานในนามพรรค แล้วประชาชนจะเลือกพรรค ซึ่งเป็นหลักการทั่วไป แต่ขณะนี้ถูกทำบิดเบือน บิดพริ้วไปหมด บัตรเดียวเลือกทั้งคนทั้งพรรค และทั้งนายกฯ สับสนกันไปหมด แล้วจะยังไม่ใส่ชื่อโลโก้พรรคลงไปในบัตรอีก” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวและว่า

ทั้งที่รัฐธรรมนูญได้กำหนดว่าส.ส. จะลงสมัครได้ผู้สมัครจะต้องสังกัดพรรคการเมือง ซึ่งแปลว่าเขายังให้ความสำคัญกับระบบพรรคการเมืองอยู่ ซึ่งเป็นหลักการของประชาธิปไตยทั่วไป คือพรรคเลือกคน ประชาชนเลือกพรรค แต่หากในบัตรเลือกตั้งไม่มีโลโก้พรรค หรือชื่อพรรคก็ให้ผู้สมัครลงในนามอิสระดีหรือไม่

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ไม่ทราบว่าการทำมาทั้งหมดคือ การปฏิรูปการเมืองตรงไหนบ้างที่ทำแล้วดีขึ้น ซึ่งตนมองว่ามีแต่ความสับสนอลหม่าน แต่ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น การพิมพ์บัตรเลือกตั้งถึง 350 แบบ ประชาชนจะมีความสับสนบนถนนเส้นเดียวกันจะเลือกพรรคเดียวกันแต่ก็มี 3-4 เบอร์ เช่น เขตลาดพร้าวก็มีถึง 3-4 เขตการจะเลือกพรรคเพื่อไทยก็มีถึง 4 เบอร์ หากเข้าคูหาแล้วไม่มีโลโก้อีก ประชาชนก็จะยิ่งสับสนขึ้นไปอีก ตนไม่ทราบว่าการทำเช่นนี้คือการปฏิรูปการเมืองหรือทำให้ประชาชนต้องฝึกจำ

เมื่อถามว่าการสวมหมวกหลายใบ ของพล.อ. ประยุทธ์ ควรจะต้องลาออกหรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า เป็นจิตสำนึก เป็นจริยธรรมวิจารณญาณ ของพล.อ.ประยุทธ์ แต่การสวมหมวกทั้งเป็นกรรมการกลาง หัวหน้าคสช. และนายกฯ แล้วยังพยายามเข้าไปยุ่งย่ามการจัดการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นหน้าที่ของกกต.นั้นไม่เหมาะสม เปรียบการเลือกตั้งกับกีฬาฟุตบอลกรรมการเป็นผู้ออกกฎกติกา และทำหน้าที่กำกับเส้นเป่านกหวีด ห้ามนักกีฬาทำผิดกติกา

แต่หากกรรมการลงมาเป็นผู้เล่นเองเสียเอง แล้วการเลือกตั้งจะเป็นบริสุทธิ์ยุติธรรมได้อย่างไร พรรคเพื่อไทยเพียงขอให้การเลือกตั้งครั้งนี้ปราศจากการซื้อเสียงการใช้อำนาจรัฐ เพื่อให้ผลการเลือกตั้งเป็นที่ยอมรับของนานาชาติและทำตามกฎหมาย อย่าได้ทำอย่างที่ผ่านมา

“บทบาทเป็นสิ่งสำคัญ การที่มีอำนาจเป็นหัวหน้าคสช. และนายกฯ เมื่อวานที่ให้กกต. จัดการประชุมแล้วพล.อ.ประยุทธ์นั่งหัวโต๊ะด้วยนั้น มันไม่ใช่หน้าที่ ผิดหลักเกณฑ์ และไม่ใช่สิ่งที่ควรจะทำ แล้วพล.อ.ประยุทธ์บอกว่าจะทำตัวเป็นกรรมการกลางไม่ยุ่งเกี่ยวกับพรรคการเมือง คนก็พอจะยอมรับได้ แต่วันนี้ตนคงไม่ต้องอธิบายอะไรมาก เพราะประชาชนก็คงเข้าใจแล้ว” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว

เมื่อถามว่าพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะกองเชียร์พรรคพลังประชารัฐระบุว่า พร้อมคุยกับทุกพรรคการเมืองอย่างพรรคเพื่อไทยจะมีโอกาสมากน้อยแค่ไหนในการพูดคุยกับพรรคพลังประชารัฐ ถึงแนวทางการเมืองในการจัดตั้งรัฐบาล คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่าต่างคนต่างทำหน้าที่ อย่าให้กติกาต่างๆ บิดเบี้ยวกว่านี้ ก็ให้กลไก ทำหน้าที่ในการเลือกตั้ง และพยายามรักษาการเลือกตั้งครั้งนี้ให้บริสุทธิ์ยุติธรรมปราศจากการซื้อสิทธิ หรือการใช้อำนาจรัฐแนวทางการในทางตรงกันข้ามเราเห็นพฤติกรรมทุกวันนี้ทำให้หวั่นวิตกกันว่าจะเป็นการเลือกตั้งที่ใช้อำนาจรัฐและใช้อำนาจเงินมากที่สุดหรือไม่ ทั้งนี้ตนฝากไว้ว่าผู้ที่ทำตัวเป็นกรรมการกลางและกรรมการกลางจริงๆ ซึ่งก็เป็นกกต. ต้องให้ความใส่ใจในเรื่องเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม พรรคเพื่อไทย จะมีกลไกในการตรวจสอบการทุจริตการเลือกตั้ง เพราะไม่มีใครช่วยเหลือเราได้ต้องช่วยเหลือตัวเอง พยายามทำให้ดีที่สุด เพื่อป้องกันการโกงการเลือกตั้ง

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า เราจะมีการตั้งศูนย์ที่จะคอยรับฟังข้อมูลและช่วย ส.ส. เก็บข้อมูลการใช้อำนาจรัฐ การซื้อเสียงในพื้นที่ใดบ้าง เพื่อร้องต่อ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขึ้นมาเพื่อจับตาการป้องกันการโกง

“เราไม่มีความมั่นใจใดๆ ในเมื่อกรรมการกลาง ที่อ้างว่ารัฐประหารมาเพื่อจะมาเป็นกรรมการ ก็มาเป็นผู้เล่นเต็มตัว แล้วคนที่จะมาทำหน้าที่เป็นกรรมการกลาง เราก็ยังไม่เห็นว่าจะสามารถทำหน้าที่ เพื่อสร้างความอุ่นใจมั่นใจได้อย่างไร แต่ก็ขอให้กำลังใจ กกต. ซึ่งเราหวังกับท่านมากรวมถึงประชาชนก็หวังเช่นเดียวกัน ว่าจะจัดการเลือกตั้ง ได้อย่างบริสุทธิ์ยุติธรรมปราศจากการซื้อเสียง และการใช้อำนาจรัฐ นอกจากนี้ตนไม่กังวลถึงการเลือกตั้ง ซึ่งมีเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น ถ้าหากเลื่อนการเลือกตั้ง ก็ไม่ใช่หน้าที่ของพรรคเพื่อไทย ที่จะตอบคำถาม แต่พลเอกประยุทธ์จะต้องเป็นคนตอบและยืนยันว่าเรามีความพร้อม เดินหน้าทำงานของเราไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศระหว่างลงพื้นที่ ได้มีฝนตกหนักกว่า 20 นาที โดยบรรดาพ่อค้าแม่ค้า รวมถึงประชาชนที่มาจับจ่ายซื้อของภายในตลาด บางคนได้จะโกนว่า “ให้ฝนตกลงมาหนักๆ จะได้ไล่ออกไป และนักการเมืองมาก็เพื่อผลประโยชน์กันทั้งนั้น” แต่ขณะเดียวกันก็มีประชาชนบางส่วนมาให้กำลังใจ และสวมกอดพร้อมกับมอบดอกกุหลาบให้คุณหญิงสุดารัตน์ด้วย