ขอบคุณข้อมูลจาก | ข่าวสดออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
วันที่ 2 ธันวาคม 2561 นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 20 พ.ย.2561 ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยเพิ่มเติมผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 4 มาตรการ โดยให้ความช่วยเหลือ จำนวน 10 เดือน (ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2561 – กันยายน 2562)
กรมบัญชีกลางในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องการจ่ายเงินช่วยเหลือตามมาตรการดังกล่าว ได้เตรียมความพร้อมทั้งข้อมูลและระบบในการจ่ายเงินเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ไว้พร้อมแล้ว รวมทั้งได้กำหนดระยะเวลาในการจ่าย โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1. มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปา
1) ค่าไฟฟ้า ผู้มีสิทธิในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ใช้สิทธิจากมาตรการค่าไฟฟ้าฟรี (ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 50 หน่วยต่อเดือน ติดต่อกันเป็นระยะเวลา 3 เดือน) ให้ใช้สิทธิค่าไฟฟ้าฟรีตามมาตรการเดิมที่มีอยู่ในปัจจุบัน หากใช้ไฟฟ้าเกิน 50 หน่วยต่อเดือน ให้ใช้สิทธิตามมาตรการใหม่ ซึ่งต้องใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 230 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน หากใช้ไฟฟ้าเกินวงเงินที่กำหนด ผู้มีสิทธิต้องเป็นผู้รับภาระค่าไฟฟ้าทั้งหมด (มาตรการนี้ใช้สิทธิได้เฉพาะค่าไฟฟ้าของการไฟฟ้านครหลวง/การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค)
2) ค่าน้ำประปา ผู้มีสิทธิในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะได้รับสิทธิช่วยเหลือค่าน้ำประปาไม่เกิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน หากใช้น้ำประปาเกินวงเงินที่กำหนด ผู้มีสิทธิต้องเป็นผู้รับภาระค่าน้ำประปาทั้งหมด (มาตรการนี้ใช้สิทธิได้เฉพาะค่าน้ำประปาของการประปานครหลวง/การประปาส่วนภูมิภาค)
สำหรับการใช้สิทธิตามมาตรการใหม่ ผู้มีสิทธิจะต้องชำระเงินค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปาไปก่อน ตามใบแจ้งหนี้ประจำเดือนที่การไฟฟ้านครหลวง/การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปานครหลวง/การประปาส่วนภูมิภาคเรียกเก็บจากการใช้ไฟฟ้า/น้ำประปา ของเดือนธันวาคม 2561 – กันยายน 2562
โดยสามารถชำระเงินได้ทุกช่องทาง ได้แก่ ชำระเงินที่สำนักงานการไฟฟ้า/ประปา หรือตัวแทนจุดบริการรับชำระเงิน Application Internet Banking หักบัญชีเงินฝากธนาคาร/บัญชีบัตรเครดิต และตัวแทนเก็บเงิน เป็นต้น ทั้งนี้ การไฟฟ้า/ประปาจะประชาสัมพันธ์แนวทางปฏิบัติให้ทราบต่อไป โดยกรมบัญชีกลางจะโอนเงินชดเชยค่าไฟฟ้า/น้ำประปา เข้ากระเป๋าเงิน e-Money ตามจำนวนที่ผู้มีสิทธิได้ชำระไว้ตามจริง ทุกวันที่ 18 ของเดือน (เริ่มจ่ายเดือนแรก 18 กุมภาพันธ์ 2562)
2. มาตรการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในช่วงปลายปีให้แก่ผู้มีรายได้น้อย จำนวน 500 บาทต่อคน จำนวน 14.5 ล้านคน ซึ่งจ่ายให้เพียงครั้งเดียว โดยกรมบัญชีกลางจะทยอยจ่ายเงินเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ให้กับผู้ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐแล้ว จำนวน 11.4 ล้านคน ภายในวันที่ 8-10 ธันวาคม 2561 และจะจ่ายเงินให้กับผู้มีสิทธิที่ลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มเติม ภายใต้โครงการไทยนิยม ยั่งยืน ในกลุ่มผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้สูงอายุที่ไม่สามารถเดินทางมาลงทะเบียนได้ในปี 2560 ในวันที่ 5 มกราคม 2562 และ 1 กุมภาพันธ์ 2562
3. มาตรการช่วยเหลือค่าเดินทางไปรับการรักษาพยาบาลและค่าใช้จ่ายอื่นเกี่ยวกับสุขภาพ สำหรับผู้มีสิทธิที่มีอายุครบ 65 ปีขึ้นไป จะได้รับเงินจำนวน 1,000 บาทต่อคน เพียงครั้งเดียว โดยกรมบัญชีกลางจะโอนเงินเข้ากระเป๋าเงิน e-Money ให้กับผู้มีสิทธิที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐแล้ว ทุกวันที่ 21 ของเดือน (เริ่มจ่ายเดือนแรก 21 ธันวาคม 2561)
4. มาตรการช่วยเหลือค่าเช่าบ้าน สำหรับผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยที่มีอายุครบ 60 ปีขึ้นไป ซึ่งมีภาระค่าเช่าบ้านและไม่มีที่พักอาศัย จะได้รับเงินช่วยเหลือ จำนวน 400 บาทต่อคนต่อเดือน โดยกรมบัญชีกลางจะโอนเงินให้กับผู้มีสิทธิ ทุกวันที่ 12 ของเดือน (เริ่มจ่ายเดือนแรก 12 ธันวาคม 2561)
หากผู้มีสิทธิรายใดมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ในระหว่างเดือนธันวาคม 2561 – กันยายน 2562 จะได้รับเงินในเดือนเกิดเป็นครั้งแรกจนสิ้นสุดมาตรการ สำหรับผู้มีสิทธิที่ลงทะเบียนเพิ่มเติมภายใต้โครงการไทยนิยม ยั่งยืนฯ จะเริ่มจ่ายในวันที่ 5 มกราคม 2562 และวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2562 เป็นครั้งแรก จากนั้นจะโอนเงินช่วยเหลือให้ทุกวันที่ 12 ของเดือนเกิดเช่นเดียวกัน
มาตรการ เงื่อนไข จำนวนเงิน วันที่เงินเข้ากระเป๋าเงิน e-Money
1. ค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปา
– ใช้ไฟฟ้าเกิน 50 หน่วย/เดือน แต่ไม่เกิน 230 บาท/ครัวเรือน/เดือน กรณีใช้เกินวงเงิน ที่กำหนดต้องรับภาระจ่ายเงินเองทั้งจำนวน
– ตามที่จ่ายจริงไม่เกิน 230 บาท/ครัวเรือน/เดือน
– วันที่ 18 ของเดือน (เริ่มจ่ายเดือนแรก 18 กุมภาพันธ์ 2562)
– ใช้น้ำประปาไม่เกิน 100 บาท/ครัวเรือน/เดือน
– กรณีใช้เกินวงเงินที่กำหนดต้องรับภาระจ่ายเงินเองทั้งจำนวน
– ตามที่จ่ายจริงไม่เกิน 100 บาท/ครัวเรือน/เดือน
2. ค่าใช้จ่ายในช่วงปลายปีให้แก่ผู้มีรายได้น้อย
– จ่ายให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐทุกคน 500 บาทต่อคน (จ่ายครั้งเดียว)
– 8 – 10 ธันวาคม 2561
– สำหรับผู้มีสิทธิ ที่ลงทะเบียนไทยนิยมฯ เริ่มจ่าย 5 มกราคม 2562 และ 1 กุมภาพันธ์ 2562
3. ค่าเดินทางไปรับการรักษาพยาบาล
– ผู้มีสิทธิที่มีอายุครบ 65 ปีขึ้นไป ระหว่างเดือนธันวาคม 2561 – กันยายน 2562
– 1,000 บาทต่อคน (จ่ายครั้งเดียว)
– วันที่ 21 ของเดือน เริ่มจ่ายเดือนแรก 21 ธันวาคม 2561
– สำหรับผู้มีสิทธิที่ลงทะเบียนไทยนิยมฯ เริ่มจ่าย 5 มกราคม 2562 และ 1 กุมภาพันธ์ 2562
4. ค่าเช่าบ้าน สำหรับผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย
– ผู้มีสิทธิที่มีอายุครบ 60 ปีขึ้นไป ระหว่างเดือนธันวาคม 2561 – กันยายน 2562 และแจ้งข้อมูลไว้กับหน่วยลงทะเบียนว่ามีภาระค่าเช่าบ้านและไม่มีที่พักอาศัย
– 400 บาท/คน/เดือน
– วันที่ 12 ของเดือน เริ่มจ่ายเดือนแรก 12 ธันวาคม 2561
– สำหรับผู้มีสิทธิที่ลงทะเบียนไทยนิยมฯ เริ่มจ่าย 5 มกราคม 2562 และ 1 กุมภาพันธ์ 2562
อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวในตอนท้ายว่า มาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยเพิ่มเติมผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 4 มาตรการข้างต้น รัฐบาลมุ่งหวังที่จะช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยในการลดภาระค่าครองชีพและยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้มีรายได้น้อยได้อย่างยั่งยืน