‘มาร์ค’ บอกยังไม่ได้รับหนังสือเชิญ ชี้แทบไม่มีอะไรต้องหารือ-ไร้เหตุผล คสช.ไม่ปลดล็อก

“มาร์ค” เผยยังไม่ได้รับหนังสือเชิญหารือ คสช. 7 ธ.ค. ชี้แทบไม่มีอะไรต้องคุยเหตุต้องทำตาม กม.ลูก ส.ส.อยู่แล้ว ไม่สน “หญิงหน่อย” ขึ้นอันดับ 1 เป็นนายกฯ บอกถึงเวลาก็ต้องมาแข่งกัน จี้ กกต.ชัดเจนรูปแบบหาเสียง ป้องกันขัดแย้ง

เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน ที่สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า พรรค ปชป.ยังไม่ได้รับหนังสือเชิญจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ไปร่วมประชุมกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในวันที่ 7 ธันวาคมนี้ ซึ่งคงต้องดูหนังสือเชิญก่อนว่ามีอะไรบ้าง แต่สันนิษฐานได้ว่าขณะนี้กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 11 ธันวาคม การหารือคงเป็นเรื่องการปลดล็อก ซึ่งแทบไม่มีประเด็นอะไรที่ต้องหารือ เพราะตนมองไม่เห็นว่าถ้ากฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. มีผลบังคับใช้แล้ว จะมีเหตุผลอะไรที่จะต้องมีข้อจำกัดการทำกิจกรรมทางการเมือง เพราะเราต้องการให้การเลือกตั้งเป็นที่ยอมรับและเป็นประชาธิปไตย ถ้ายังมีข้อจำกัดในเรื่องการเคลื่อนไหวอยู่ก็จะเป็นปัญหาต่อไป

เมื่อถามว่า ในเรื่องการแบ่งเขตการเลือกตั้งที่ยังไม่มีข้อยุติจะทำให้เป็นปัญหาหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า อยู่ที่การทำงานของ กกต. เพราะเราเห็นว่าคำสั่งของ คสช.ที่ออกมาล่าสุดเป็นการสร้างปัญหาทำให้เกิดเครื่องหมายคำถามขึ้นในเรื่องการทำงานเป็นอิสระของ กกต.ใน 2 ประเด็นใหญ่ คือ ทำไมต้องเอารัฐบาลกับ คสช.มาเกี่ยวข้องกับกระบวนการแบ่งเขตการเลือกตั้งด้วย และสอง การที่ไปคุ้มครองทางกฎหมายว่า การแบ่งเขตเลือกตั้งอาจไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในกฎหมายปกติที่จะเป็นเรื่องบั่นทอนความเชื่อมั่นในการแบ่งเขต และในข้อเท็จจริงเราทราบว่าพรรคการเมืองที่อิงอยู่กับผู้มีอำนาจในปัจจุบันเอาเรื่องของเขตการเลือกตั้งมาต่อรองในการดึงสมาชิกพรรคการเมืองอื่น

เมื่อถามถึงท่าทีของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่แสดงสัญลักษณ์ว่าจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 ทำให้มั่นใจหรือไม่ว่าโรดแมปการเลือกตั้งจะไม่ขยับ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ก็ดี ตอนนี้ถ้าอะไรที่เกิดความชัดเจนก็ดีสำหรับประเทศ และขณะนี้ทุกพรรคก็มีความพร้อมที่จะมุ่งไปสู่การเลือกตั้ง อะไรที่ไปสร้างความไม่แน่นอนขึ้นอีกก็ไม่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม และอะไรที่เดินไปตามปฏิทินที่กำหนดไว้ก็จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศและรัฐบาล

เมื่อถามว่า ผลสำรวจความเห็นประชาชนที่ออกมาว่าคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย เหมาะสมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีเป็นอันดับ 1 นั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า มีหลายโพล ตนก็ดูอยู่หลายโพล ไม่มีปัญหาอะไร ถึงเวลาก็ต้องแข่งขันกัน

เมื่อถามว่า มีพรรคการเมืองบางส่วนวิจารณ์ว่าการปลดล็อกอาจทำกิจกรรมได้ไม่เต็มที่ เพราะอาจมีทหารเข้าไปประกบอยู่ด้วยเพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า มองว่าบ้านเมืองเรามีกฎหมายดูแลในเรื่องของความสงบเรียบร้อยอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องเอาเรื่องนี้มาพันกับการทำกิจกรรมทางการเมืองหรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง คนที่จะก่อความวุ่นวายหรือความไม่สงบ หรือสร้างความขัดแย้ง ความจริงทำได้โดยไม่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม มองว่าพรรคการเมืองไหนก็ไม่ประสงค์ที่จะเกิดความขัดแย้งขึ้น ทุกคนต้องการให้บ้านเมืองกลับไปสู่ประชาธิปไตยคือการเลือกตั้ง ดังนั้น จึงมองไม่เห็นว่าพรรคการเมืองที่อยากเลือกตั้งจะไปสร้างความขัดแย้งเพื่อให้เกิดปัญหาขึ้นอีกทำไม

เมื่อถามต่อว่า โฆษก คสช.กังวลว่าเวลาหาเสียงเมื่อสองพรรคการเมืองมาเจอกันอาจทำให้เกิดปัญหาได้ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เคยเสนอก่อนหน้านี้แล้วว่า ความจริง กกต.ควรกำหนดให้ชัดว่ากรณีที่มีความพยายามเข้าไปขัดขวางการหาเสียงเลือกตั้งของพรรคการเมืองอื่น ต้องถือว่าเป็นพฤติกรรมที่ทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตยุติธรรม เพราะถือเป็นการกีดกันหรือไม่เปิดโอกาสให้ทุกพรรคหาเสียงอย่างเท่าเทียม ถ้า กกต.ชัดเจนอย่างนี้พรรคการเมืองหรือกลุ่มการเมืองไหนที่เกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองแล้วไปพยายามทำสิ่งเหล่านี้ก็จะต้องถูกลงโทษ ซึ่งเมื่อปี 2554 เคยร้องเรียนเรื่องนี้ไป แต่ กกต.ในสมัยนั้นวินิจฉัยว่า ไม่เป็นไรจะเข้ามาขัดขวางกันก็ได้ จึงเกิดปัญหา ดังนั้นถ้า กกต.สร้างบรรทัดฐานใหม่จะเป็นวิธีที่ดีที่สุด จะทำให้คนที่มีส่วนได้ส่วนเสียทางการเมืองไม่เข้ามายุ่ง