‘บิ๊กป้อม’ ร่วม นายกฯ ตอบคำถาม พรรคการเมือง7ธ.ค.นี้ รับ อยากให้บิ๊กตู่เป็นนายกฯต่อ

“บิ๊กป้อม” เผย ร่วมนายกฯ ตอบคำถามพรรคการเมือง 7 ธ.ค.นี้ ให้ “วิษณุ” แจงด้านกฎหมาย แย้ม คุยเรื่องหาเสียง อย่าเกิดขัดแย้ง รับอยากให้ “บิ๊กตู่” เป็นนายกฯต่อ สานต่องาน โยนการเมือง หากเห็นเหมาะสม ส่งเทียบเชิญ

เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงภาพรวมการสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคการเมืองต่างๆ ว่า ก็แล้วแต่ว่าใครจะชอบอยู่กับใคร แล้วแต่นักการเมืองว่าจะอยู่พรรคไหน ซึ่งเขาก็กำหนดเวลาให้แล้วทุกอย่าง ก็เป็นไปตามนั้น ส่วนที่มีนักการเมืองย้ายไปสังกัดพรรคพลังประชารัฐเป็นจำนวนมากนั้นตนไม่ทราบ เพราะไม่ได้อยู่พรรคนี้ ต้องไปถามคนที่สังกัดพรรคนี้ ส่วนในอนาคตประชารัฐจะดีหรือไม่นั้นตนไม่ทราบเพราะประชาชนยังไม่ได้เลือกเลย

เมื่อถามว่าหากพรรคพลังประชารัฐได้เสียงข้างมากและได้จัดตั้งรัฐบาลจะส่งเทียบเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งเพื่อสานงานต่อมองว่าอย่างไร พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่ทราบ เราก็อยากให้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีต่อ จะได้ทำงานที่ทำอยู่ให้เสร็จ เพราะทุกอย่างก็พยายามเร่งทำงานทุกอย่าง 4 ปี ก็ทำได้มากแล้ว ซึ่งถ้า พล.อ.ประยุทธ์ได้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อจะได้สานต่องานในอนาคตให้ก้าวเดินไป ซึ่งถ้าพรรคการเมืองเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์สมควร ก็คงจะเชิญเอง แล้วแต่พรรคการเมือง

เมื่อถามว่าหากเชิญ พล.อ.ประวิตรเป็นนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ตนยิ่งเหนื่อยใหญ่เลย และคงไม่รอใครมาเชิญ ทำงานไม่ไหวแก่แล้ว ส่วนการพูดคุยระหว่างพรรคการเมืองกับ คสช.ในวันที่ 7 ธันวาคม ตนจะเข้าประชุมด้วย ซึ่งในส่วนของกฎหมายจะมีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย เป็นคนชี้แจง ถ้าเรื่องของ คสช.จะมีนายกรัฐมนตรีหรือตนเป็นคนตอบ ส่วนประเด็นที่จะพูดคุยกับนักการเมืองก็แล้วแต่นักการเมืองว่าจะมาถามเรื่องอะไร สำหรับการรักษาความสงบเรียบร้อยเพื่อให้การเลือกตั้ง ยืนยันว่าเป็นประเด็นต้องพูดถึง โดยเฉพาะเรื่องการหาเสียง จะทำอย่างไรให้เกิดความเรียบร้อย ไม่ขัดแย้ง

เมื่อถามว่าห่วงหรือไม่ว่าจะมีการหาเสียงโจมตีทำให้เกิดความขัดแย้ง พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า คิดว่าเวลา 60-70 วัน น่าจะเพียงพอแล้วในการหาเสียง หากให้หาเสียงนานก็จะยุ่ง

ผู้สื่อข่าวถามว่าหลังปลดล็อกทางการเมืองจะมีเงื่อนไขอะไรที่ไม่ทำให้การเมืองเกิดความขัดแย้งหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า จะทำอย่างไรได้ กฎหมายก็ไม่มีอะไรแล้ว ก็ต้องแล้วแต่เขา คำสั่ง คสช.โดยเฉพาะฉบับที่ 3/2558 ก็จะต้องยกเลิก เมื่อถึงวันที่กำหนด ทั้งนี้ นักการเมืองก็คงจะลงพื้นที่หาเสียง คิดว่าไม่น่าจะมีอะไร ซึ่งอยู่มา 4 ปีก็เรียบร้อยดี ก็น่าจะรู้แล้วว่าความเรียบร้อยเป็นอย่างไรและประชาชนก็ชอบ

เมื่อถามว่า นานธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ วิจารณ์ว่ารัฐบาลใช้เงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อหาเสียง ขาดระเบียบวินัยการใช้เงิน พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ยืนยันว่ารัฐบาลใช้เงินมีวินัย เพราะถ้าไม่มีวินัยก็ถูกฟ้องร้อง ยืนยันว่าโครงการดังกล่าวเป็นการใช้เงินเพื่อคนจน ผู้มีรายได้น้อย จะอยู่ได้ด้วยความเข้มแข็ง รวมถึงคนสูงอายุ ทั้งนี้ รัฐบาลพิจารณาแล้ว อะไรผิดกฎหมาย ก็ทำไม่ได้ ถามว่ารัฐบาลจะใช้เงินส่งเดชได้อย่างไร รัฐบาลจะใช้เงินส่งเดชไม่ได้ ซึ่งกระทรวงการคลังก็คุมงบประมาณทุกอย่าง

เมื่อถามถึงกระแสข่าวยุบพรรคเพื่อไทยนั้น พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ยังไม่ได้ยิน ต้องไปถาม กกต. เพราะตนไม่ได้เกี่ยวข้อง ส่วนที่พรรคเพื่อไทยหวาดระแวงว่าจะถูกยุบพรรคนั้น ต้องไปถามพรรคเพื่อไทย ซึ่งหากถูกยุบ คสช.ก็ไม่เกี่ยว ยืนยันว่าการเลือกตั้งเกิดขึ้นวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 แน่