มนุษย์เงินเดือน-คนชั้นกลางไม่ตกขบวนของขวัญปีใหม่ คลังชง ครม.อัดฉีดแพ็กเกจสินเชื่อใหม่ผู้มีรายได้ประจำให้แบงก์ออมสินปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำ-ซื้อสินค้าได้ลดหย่อนภาษี สมาคมค้าปลีกดึงสมาชิกจัดแคมเปญใหญ่รับลูก ปลุกมู้ดจับจ่ายทั้งประเทศ

มาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การช่วยเหลือภาคการเกษตร คนจน ข้าราชการเกษียณอายุ ซึ่งที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติแพ็กเกจใหญ่เมื่อ 19 พ.ย. 2561 ส่งผลทำให้บรรยาการช่วงโค้งสุดท้ายปลายปีนี้คึกคักขึ้นทันที เห็นได้จากธุรกิจหลากหลายสาขาต่างเคลื่อนไหวรับมาตรการดังกล่าวทั้งเตรียมสินค้าไว้สนองความต้องการของลูกค้า ควบคู่กับการจัดแคมเปญโปรโมชั่นกระตุ้นกำลังซื้อเพิ่ม และมองว่าจะเป็นปัจจัยบวกทำให้การจับจ่ายใช้สอยในภาพรวมจะดีต่อเนื่องถึงปีใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรการช็อปช่วยชาติเวอร์ชั่น 2 ที่กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างจัดทำมาตรการเตรียมเสนอ ครม.ไฟเขียว

ล่าสุด นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จะเสนอมาตรการช็อปช่วยชาติ เวอร์ชั่นใหม่ ให้ ครม. เห็นชอบได้ภายใน 2 สัปดาห์นี้ แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างหาข้อสรุปในรายละเอียดของมาตรการอยู่ โดยรอบนี้มาตรการจะจำกัดประเภทของสินค้าให้เฉพาะเจาะจง เช่น ยางรถยนต์ เพื่อสนับสนุนการใช้ยางพาราภายในประเทศช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยาง หนังสือ ซึ่งรวมถึงอีบุ๊ก เพื่อส่งเสริมการอ่าน เป็นต้น และจะกำหนดระยะเวลาที่มาตรการจะมีผลบังคับใช้ราว 1 เดือน ซึ่งอาจจะเป็นช่วง 16 ธ.ค.ปีนี้ ไปจนถึง 15 ม.ค.ปีหน้า

คลังเล็งอัดฉีดช่วยมนุษย์เงินเดือน

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า รมว.คลังไม่ต้องการให้ทำมาตรการช็อปช่วยชาติเหมือนทุกปีที่ผ่านมา เนื่องจากไม่ต้องการให้คนชะลอการใช้จ่ายเพื่อรอมาตรการ ซึ่งตอนแรก รมว.คลัง ต้องการให้มาตรการช็อปช่วยชาติรอบนี้ มีคนที่อยู่นอกฐานภาษีได้รับประโยชน์ด้วย อาจจะให้มีการจ่ายชดเชยเงินที่ซื้อสินค้าให้ แต่เนื่องจากจะต้องใช้การตั้งงบประมาณ ช่วงนี้จึงทำได้ลำบาก และไม่เหมาะสม จึงยังคงเน้นมาตรการลดหย่อนภาษีให้แก่ผู้เสียภาษีเป็นหลัก ทั้งนี้ สินค้าจะมีด้วยกัน 3 รายการ ได้แก่ ยางรถยนต์ หนังสือ และสินค้าที่เป็นผลิตภัณฑ์ชุมชน ในวงเงินรวมกันไม่เกิน 15,000 บาท

“ตอนนี้ได้ข้อสรุปในหลักการก็คือ เป็นการลดหย่อนภาษีจากการซื้อสินค้า3 รายการนี้ เนื่องจากสามารถทำได้ไม่ยาก เพราะเป็นการลดภาระให้ผู้ที่เสียภาษีอยู่แล้ว ขณะเดียวกัน ยังเน้นสินค้าในประเทศเป็นหลักด้วย”

ด้านแหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า มาตรการที่จะเสนอ ครม.ในคราวต่อไป จะมีการเพิ่มมาตรการช่วยเหลือให้ครอบคลุมถึงกลุ่มมนุษย์เงินเดือน โดยให้ธนาคารออมสินจัดสินเชื่อสำหรับคนมีรายได้ประจำ อัตราดอกเบี้ยผ่อนปรนเป็นพิเศษ นอกจากนี้ ยังจะมีการพักหนี้แก่ลูกหนี้กองทุนหมู่บ้านเป็นเวลา 3 ปีอีกด้วย

ค้าปลีกจัดแคมเปญช็อปช่วยชาติ

นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมค้าส่ง-ปลีกไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมของค้าปลีกมองว่า จากปัจจัยที่รัฐบาลทยอยออกมาตรการช่วยเหลือผู้ที่มีรายได้น้อย โดยเฉพาะการออกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอัดฉีดงบประมาณช่วยเหลือภาคเกษตรกร คนจน ข้าราชการเกษียณ จะทำให้เกษตรกรมีกำลังซื้อและกล้าออกมาจับจ่ายมากขึ้น ส่งผลให้ภาพรวมค้าปลีกได้รับอานิสงส์จากการเพิ่มรายได้ในการจับจ่ายของผู้บริโภค และทำให้ร้านค้าของผู้ประกอบการในท้องถิ่นมีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้น

ขณะเดียวกัน ที่กระทรวงการคลังกำลังพิจารณามาตรการช็อปช่วยชาติ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่ 16 ธ.ค. 2561-15 ม.ค. 2562 นี้ ต้องรอสรุปแนวทางดำเนินการที่ชัดเจน ทั้งนี้ ช่วงโค้งสุดท้ายปีนี้ทางสมาคมค้าปลีกได้ร่วมกับร้านค้าสมาชิก เตรียมจัดกระตุ้นช็อปช่วยชาติ ด้วยแคมเปญจัดจำหน่ายสินค้าในราคาพิเศษ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตขึ้น

นายสราวุฒิ อยู่วิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ TCP กล่าวว่า ทุกครั้งที่มีการอัดฉีดงบฯของภาครัฐ เชื่อว่าเม็ดเงินจะเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจได้อยู่แล้ว รวมถึงการใส่เงินกระตุ้นเป็นของขวัญช่วงปีใหม่เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ข้าราชการ ในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของตลาดเครื่องดื่มในปีนี้ ตลอดจนเครื่องดื่มชูกำลังค่อนข้างทรงตัว และบางแคทิกอรี่ตลาดหดตัวลง เช่น ชาเขียว แต่ภาพรวมของบริษัทในแคทิกอรี่ต่าง ๆ ทั้งเอเนอร์จี้ดริงก์, ฟังก์ชั่นนอลดริงก์, ชาขาวพร้อมดื่ม ฯลฯ ยังคงเติบโต

ปลุกมู้ดจับจ่ายทั้งประเทศ

นายสมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่นซิสเทม จำกัด เทสโก้ โลตัส เปิดเผยในทำนองเดียวกันว่า หลังการกระตุ้นมาตรการทางเศรษฐกิจของภาครัฐออกมาอย่างหนักและต่อเนื่องจะส่งผลบวกต่อภาพรวมของกำลังซื้อในช่วงปลายปีอย่างมาก ถ้ามีช็อปช่วยชาติที่เตรียมออกมากระทุ้งออกมาส่งท้ายปีอีก จะทำให้บรรยากาศของเศรษฐกิจและการจับจ่ายทั้งประเทศดีขึ้น

“มันเริ่มเห็นผลนะ และเร็ว อย่างลอยกระทงที่ผ่านมาตอนแรกมองว่า คงไม่ค่อยเท่าไหร่ คงเงียบ ๆ ตัวเลขกับดีกว่าปีก่อน บรรยากาศและมู้ด มันดีขึ้น”

ขณะที่นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ นายกสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย ชี้ว่ามาตรการนี้น่าจะสามารถกระตุ้นการจับจ่ายสินค้าอุปโภคบริโภคได้แน่นอน ยิ่งเมื่อรวมกับการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น 5% และการจ้างงานที่สูงขึ้น น่าช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ส่วนหนึ่ง แต่ยังต้องจับตามองด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศที่กระทบส่งออก

ส่วนนายสิทธิเวช เศวตรพัชร ผู้จัดการฝ่ายอาวุโส ผลิตภัณฑ์กล้องดิจิทัล อิมเมจิ้ง บริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) กล่าวว่า มาตรการช็อปช่วยชาติจะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของชนชั้นกลาง-บนได้ดีมาก เพราะช่วงปลายปีเป็นช่วงช็อปปิ้งสำคัญ ปีก่อน ๆ มาตรนี้สามารถกระตุ้นได้เยอะมาก เพราะการหักลดหย่อยภาษี ช่วยผลักดันกลุ่มที่ลังเลให้ตัดสินใจใช้จ่ายทันที