‘ธนาธร’ บรรยายให้ นศ.ศิลปากรฟัง เรื่อง ปชต. ยกกรณีเกาหลีใต้ทำไมแซงไทยพัฒนาไปไกล ไร้รัฐประหารอีก

‘ธนาธร’ บรรยายพิเศษ ศิลปากร ทับแก้ว “ประชาธิปไตยในไทย เปรียบเทียบกับสังคมโลก” พร้อมพบปะประชาชน และผู้สนใจลงสมัครไพรมารี ส.ส. นครปฐม พรรคอนาคตใหม่

วันที่ 19 พ.ย. 61 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และทีมงานพรรคอนาคตใหม่ ได้เดินทางไปพบปะพูดคุยและร่วมรับฟังปัญหา จากประชาชน และผู้ที่สนใจจะลงสมัครไพรมารี ส.ส. ของพรรคอนาคตใหม่ ในจังหวัดนครปฐม ที่ร้านอาหารเชกอินเมลทวัน กำแพงแสน

โดนนายธนาธร ได้กล่าวกับชาวนครปฐมที่มาให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ว่า “ขอขอบคุณพี่น้อง ประชาชนทุกคน ที่ได้ตัดสินใจมาร่วมเดินทางกับอนาคตใหม่ด้วยกัน การเดินทางครั้งนี้ จะเป็นการเดินร่วมกันของทุกคน ไม่ใช่ของผมคนเดียว จากวันที่เราได้รับสถานะเป็นพรรค ในวันที่ 3 ตุลาคม จนถึงเวลานี้ นับเวลายังไม่ถึง 2 เดือน แต่เรามีสำนักงานประจำจังหวัดครบ 77 จังหวัดแล้ว มีสมาชิกร่วม 20,000 คน และผู้ที่มีใจอาสาสมัครเข้าร่วมงานกับเรากว่า 2,000 คน จากทั่วประเทศ
ทำให้ผมเชื่อมั่นได้ว่า ยังมีคนอีกเป็นจำนวนมาก ที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ต้องการเห็นสังคมที่ดีกว่าทุกวันนี้ ก้าวไปสู่อนาคตใหม่ ที่ก้าวพ้นจากความขัดแย้งทางการเมือง แบ่งฝักแบ่งฝ่าย แล้วก็กลับเข้าสู่วงจรของเผด็จการ รัฐประหารเหมือนเดิม เราจะพัฒนาประเทศของเราในเรื่องใดไม่ได้เลย ถ้าไม่หยุดยั้งวงจรของเผด็จการ และต้องทำลายโครงสร้างที่กดทับสังคมไทยอย่างไม่เป็นธรรมให้ได้ก่อน

วันนี้ิ แม้เราจะเป็นพรรคการเมืองใหม่ แต่เรายืนยันที่จะส่งผู้สมัคร ส.ส. ลงแข่งขัน ให้ครบทั้ง 350 เขตเลือกตั้งอย่างแน่นอน ผมดีใจที่ในวันนี้ พรรคของเรามีการเติบโตได้เร็ว นั่นเป็นเพราะเรามีคนที่มีอุดมการณ์เหมือนกัน มาอยู่รวมตัวกัน ผมคนเดียวไม่สามารถทำได้ ผมขอเชิญทุกคน มาร่วมเดินทางไปกับผม”

โดยในจังหวัดนครปฐม ได้มีผู้สนใจลงสมัครเลือกตั้ง ไพรมารีโหวต ส.ส. ของพรรค ครบทุกเขตแล้ว
ซึ่งทางพรรคอนาคตใหม่ ได้มีการเปิดรับสมัคร ผู้ประสงค์ลงสมัครไพรมารี่โหวต เพื่อคัดเลือกเป็นผู้สมัคร ส.ส. มาตั้งแต่วันที่ 18 ตุลาคมและได้ปิดรับสมัครไปแล้ว ในวันที่ 18 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา
จากนี้ไป ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนต่างๆ ตามกระบวนการของพรรคต่อไป และจะมีการประกาศรายชื่อผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง ส.ส. ในนามของพรรคทั่วประเทศ ในวันที่ 31 ธันวาคม นี้

หลังจากนั้น นายธนาธร ได้เดินทางต่อไปที่ คณะอักษรศาสตร์ ม.ศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ (ทับแก้ว)​ เพื่อบรรยายพิเศษในหัวข้อ “การเมือง การปกครองของประเทศกำลังพัฒนา ประชาธิปไตยในไทย เปรียบเทียบกับสังคมโลก”

โดยนายธนาธร ได้กล่าวในการบรรยายตอนหนึ่งว่า “การเปลี่ยนผ่านประเทศ ไปสู่ระบอบประชาธิปไตย ของทุกประเทศในโลกนี้ ไม่เคยเป็นเรื่องที่ง่าย ล้วนต้องผ่านความรุนแรง การต่อสู้ด้วยเลือดเนื้อ บาดเจ็บล้มตาย และการเสียสละของคนเป็นจำนวนมาก นับจากเหตุการณ์รัฐประหาร 19 กันยา 2549
ประเทศไทย ต้องอยู่ภายใต้เงาของเผด็จการทหารมาแล้ว ถึง 12 ปี สังคมไทยต้องตกอยู่ในบรรยากาศของ hate speech การเกลียดชังกันอย่างร้าวลึก ซึ่งความขัดแย้งทางการเมืองเหล่านี้ มันเป็นตัวฉุดรั้งความเจริญก้าวหน้าของชาติ ทำให้ประเทศของเรามีอัตราการเติบโตในทุกด้านต่ำกว่าศักยภาพที่แท้จริงที่ควรจะเป็น
ไทย กับ เกาหลีใต้ เคยอยู่ในจุดที่ ฐานะทางเศรษฐกิจ จนเท่ากัน มาก่อน เพราะเมื่อก่อน เกาหลีใต้ก็ต้องเผชิญกับปัญหา การวนเวียนอยู่ในวงจรของรัฐประหาร เช่นเดียวกับไทย แต่หลังจากเหตุการณ์ที่กวางจู “Kwangju Democratic Uprising” ในปี 1980
ที่ประชาชนลุกฮือขึ้นมา ต่อสู้กับเผด็จการทหาร จนเกิดการบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมากของประชาชนผู้บริสุทธิ์ แต่ในที่สุดแล้ว ก็ได้นำมาซึ่งการได้ล้มล้างผลพวงของรัฐประหารทั้งหมดในเวลาต่อมา นับจากนั้นมา ก็ไม่มีการรัฐประหาร เกิดขึ้นในเกาหลีใต้อีกเลย และ ถึงทุกวันนี้เกาหลีใต้ ก็ได้กลายเป็นประเทศที่มีการพัฒนาอย่างสูงในทุกด้าน ทิ้งห่างประเทศไทยไปมากแล้ว หลังจากที่ประสบชัยชนะ ในการนำทหารออกจากการเมืองได้”

บรรยากาศการบรรยายในชั้นเรียน นักศึกษาได้ให้ความสนใจ มีส่วนร่วมอย่างมาก ในการเสนอแนะความคิดเห็น ร่วมถาม ตอบปัญหาต่างๆ และความเป็นไปของสังคม การเมืองไทย
พร้อมทั้งได้อภิปรายกันว่า ทุกวันนี้ได้เกิดความเข้าใจที่ชัดเจนแล้วว่า การเมืองเป็นเรื่องใกล้ตัว เป็นเรื่องในชีวิตประจำวันของคนทุกคน ไม่ได้เป็นเรื่องน่ากลัว น่ารังเกียจ อย่างที่เคยรู้สึกกันมา อีกต่อไป
จึงนับเป็นนิมิตหมายอันดี ที่ได้เห็นว่า คนรุ่นใหม่ทุกวันนี้มีความคิดที่พร้อมจะเข้ามามีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงสังคมไทย และพรรคอนาคตใหม่ ก็เชื่อใน พลังบริสุทธิ์ของคนรุ่นใหม่ ที่จะมีบทบาทอย่างมากในการสร้างประเทศไทยไปด้วยกัน