‘พิชัย’ ชี้เศรษฐกิจไตรมาส3ทรุดหนัก แนวโน้มลงต่อเนื่อง แนะเลือกตั้งตามกำหนด ฟื้นความเชื่อมั่น ลั่น ทษช.แก้ไขได้

เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า การเจริญโตทางเศรษฐกิจลดลงมากในไตรมาส 3 ขยายตัวได้เพียงร้อยละ 3.3 ซึ่งขยายตัวต่ำกว่าที่คาดหมายมาก หลังจากไตรมาสแรกโตเพียงร้อยละ 4.8 และ ลดมาร้อยละ 4.6 ในไตรมาสที่ 2 ทั้งนี้มาจากการส่งออกที่ขยายตัวลดลง และ จำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลงมาก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากจีนที่ลดลงมา 5 เดือนติดกัน

“ในเดือนตุลาคม ลดลงถึงร้อยละ 80.61 ถึงขนาดที่ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ต้องออกมาพูดภาษาจีนเชิญชวนนักท่องเที่ยวจีนเข้ามา แต่ไม่แน่ใจว่าจะได้ผลหรือไม่ เพราะปัญหานักท่องเที่ยวลดลง น่าจะเกิดจากการบริหารงานที่ผิดพลาดของรัฐบาลเอง ถึงขนาดที่ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ยื่นลาออกจากตำแหน่งแล้ว ทั้งนี้ แนวโน้มนักท่องเที่ยวจีนน่าจะยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง และการส่งออกก็น่าจะติดลบต่อ ซึ่งจะทำให้จีดีพีในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ไม่น่าจะดีนัก อีกทั้งหลายสำนักได้คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจในปีหน้าจะขยายตัวลดลงกว่าปีนี้ และอาจจะกลับไปโตต่ำกว่าร้อยละ 4 อีกครั้ง แสดงให้เห็นชัดว่าประเทศไทยยังไม่พ้นการเป็นคนป่วยของเอเซีย ต่างกับที่นายสมคิดบอก ทั้งนี้การที่นายสมคิด บอกว่าปีหน้าจะเป็นปีทองการลงทุนไทย ก็แสดงให้เห็นว่า 4 ปีกว่าที่ผ่านมา การลงทุนได้ทรุดต่ำมาตลอด” นายพิชัย กล่าว

นอกจากนี้ นายพิชัย กล่าวว่า อยากให้นายสมคิดศึกษาให้ชัดว่า ทำไมนักลงทุนภาคเอกชนโดยเฉพาะนักลงทุนจากต่างประเทศถึงไม่ลงทุน ไม่ใช่จะ ลด แลก แจก แถม เท่าไร นักลงทุนก็ยังไม่ลงทุน และก็ยังจะลด แลก แจก แถม กันต่อ ถึงขนาดใช้ ม.44 ยกเว้นให้กับบริษัทต่างชาติ ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ในบางเรื่อง โดยไม่ยอมรับความจริงที่ว่านักลงทุนน่าจะไม่เชื่อมั่นรัฐบาลนี้ เพราะล่าสุด มีนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยเกียวโต มาขอพบ และยืนยันว่านักลงทุนญี่ปุ่นไม่ลงทุนในไทย เพราะไม่มั่นใจในรัฐบาลและสภาวะการเมืองไทยในปัจจุบัน

“หากเป็นเช่นนั้น ปีหน้าก็ไม่น่าจะใช่ปีทองของการลงทุนของไทยอย่างแน่นอน ถ้าหากยังคงเป็นรัฐบาลนี้ นอกจากจะเป็นปีทองการลงทุนของนายทุนที่รัฐเอื้อประโยชน์ให้อย่างเต็มที่ เช่น การลงทุนรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน โดยแถมการใช้ที่ดินมักกะสันมูลค่าหลายแสนล้านบาทให้ เป็นต้น นอกจากนี้ ราคาสินค้าการเกษตรยังคงตกต่ำอย่างมาก โดยเฉพาะราคายางพารา และ ปาล์มน้ำมัน รายได้ของประชาชนส่วนใหญ่ยังลดลงมาก มีแต่นายทุนที่ได้ประโยชน์ ซึ่งเห็นได้จากหนี้เสียในระบบธนาคารยังคงเพิ่มสูงขึ้น แสดงว่าเศรษฐกิจไม่ได้ฟื้นจริง  ปัญหาปากท้องของประชาชนยังไม่ได้รับการแก้ไข” นายพิชัย กล่าวและว่า ดังนั้นหากมีความพยายามที่จะเลื่อนการเลือกตั้ง ก็จะยิ่งทำให้ปัญหาทางเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้น จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาล และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้จัดให้มีการเลือกตั้งตามกำหนด เพื่อฟื้นความมั่นใจของประเทศที่ทรุดต่ำมากว่า 4 ปีแล้ว ประเทศไทยจะได้เดินหน้าได้

นายพิชัย กล่าวว่า ได้เตือนเรื่องนี้มาตลอด 4 ปี และเศรษฐกิจก็เสื่อมถอยจริงมาโดยตลอด จนประชาชนเดือดร้อนแทบจะทนกันไม่ไหวแล้ว ทั้งนี้ พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) มีแนวทางฟื้นฟูเศรษฐกิจที่พร้อมจะนำเสนอแล้ว และมั่นใจว่าประชาชนจะมีรายได้เพิ่มขึ้นและกลับมามีความสุขได้จริง