เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน นายชัชชม อรรฆภิญญ์ อธิบดีอัยการสำนักงานต่างประเทศ กล่าวถึง กรณีที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ได้ออกหมายจับ นางกาญจนาภา หงส์เหิน เลขานุการส่วนตัวของคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร เเละ นายวันชัย หงษ์เหิน สามี 2ผู้ต้องหาคดีความผิดฐานฟอกเงินในคดีที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตอนุมัติสินเชื่อของธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน)ให้กับบริษัทในเครือกฤษดามหานคร ซึ่งทางพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษพบว่าบุคคลทั้งสองได้เดินทางออกนอกประเทศหนีไปประเทศฮ่องกงไปตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา ว่า ในเรื่องการประสานขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามเเดน ในกรณีที่ผู้ต้องหาหนีไปต่างประเทศจะต้องมีการประสานงานมาเพื่อขอให้อัยการสูงสุดในฐานะผู้ประสานงานกลางส่งเรื่องไปที่ฮ่องกงเพื่อจับกุมผู้ต้องหาเเละผ่านกระบวนการส่งผู้ร้ายข้ามเเดนกลับมายังประเทศไทยต่อไป ซึ่งขณะนี้ตนยังไม่ได้เห็นหนังสือจากทางพนักงานสอบสวนส่งไปถึงอัยการสูงสุดมาเเต่อย่างใด ซึ่งปรกติเเล้วหนังสือจะส่งไปที่อัยการสูงสุดก่อนส่งมายังสำนักงานต่างประเทศเพื่อดำเนินการต่อไป

นายชัชชม กล่าวว่า ในคำร้องขอผู้ร้ายข้ามเเดนที่จะประสานไปนั้นจะต้องมีการระบุถิ่นที่อยู่ของผู้ต้องหามากพอสมควร เช่นอยู่ใน ที่พักเลขที่เท่าไหร่ ตำบลอำเภอหรือถนนเส้นไหน เพราะถ้าเราไม่ได้ระบุไปก็จะต้องใช้วิธีการร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อสืบหาบุคคลทางความร่วมมือระหว่างประเทศก่อนที่จะใช้ขั้นตอนการส่งผู้ร้ายข้ามเเดน ซึ่งตรงนี้ทางพนักงานสอบสวนไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือดีเอสไอต้องรู้จุดพิกัดก่อนส่วเรื่องมายังอัยการได้

เมื่อถามว่าระหว่างประเทศไทยกับฮ่องกง มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามเเดน หรือไม่ นายชัชชม กล่าวว่า เดิมประเทศไทยเรานั้นมีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามเเดนกับประเทศจีนซึ่งครอบครองพื้นที่เกาะฮ่องกงอยู่ หากว่ามีการระบุถิ่นที่อยู่เเละส่งเรื่องมายังอัยการสูงสุดเราก็จะประสานงานตามขั้นตอนส่งผู้ร้ายข้ามเเดนเพื่อขอตัวผู้ต้องหากลับมาดำเนินคดีได้