เผยแพร่ |
---|
เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน สำนักข่าวเอเอฟพีและรอยเตอร์รายงานว่า องค์ชุมนุมชำระวิสามัญแห่งตุลาการกัมพูชา (อีซีซีซี) หรือ ศาลคดีเขมรแดง ตัดสินว่านายเขียว สัมพัน วัย 87 ปี และ นายนวน เจีย วัย 92 ปี อดีตผู้นำระดับสูงของกลุ่มเขมรแดง มีความผิดในข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ ในยุคปกครองกัมพูชาของกลุ่มเขมรแดงอันโหดเหี้ยมทารุณระหว่างปีค.ศ.1975-1979 ซึ่งเป็นผลให้มีชาวกัมพูชามากถึงราว 1.7-2.2 ล้านคน หรือ 1 ใน 4 ของประชากรทั้งประเทศต้องล้มตาย โดยศาลยังพิพากษาโทษจำเลยทั้งสองด้วยการสั่งจำคุกตลอดชีวิต
ผู้พิพากษาศาลอีซีซีซีชี้ว่านายนวน เจีย อดีตผู้นำหลายเลข 2 ของเขมรแดง มีความผิดในข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชนกลุ่มน้อยชาวเวียดนามและชาวจามในกัมพูชา จากการที่นายนวน เจีย มีส่วนร่วมในการตัดสินใจกับนายพล พต อดีตผู้นำหมายเลข 1 ของเขมรแดงที่ปกครองกัมพูชาอย่างเหี้ยมโหดที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ที่เรียกว่า “ทุ่งสังหาร” ขณะที่นายเขียว สัมพัน ซึ่งเป็นประมุขแห่งรัฐของกลุ่มเขมรแดงถูกตัดสินว่ามีความผิดข้อหาล้างเผ่าพันธุ์ชนกลุ่มน้อยชาวเวียดนาม แต่ไม่เกี่ยวข้องกับชาวจาม
ก่อนหน้านี้ในปี 2014 นายนวน เจีย และ นายเขียว สัมพัน ถูกศาลตัดสินโทษจำคุกตลอดชีวิตมาแล้วในข้อหาก่ออาชญากรรรมต่อมนุษยชาติที่เกี่ยวข้องกับการทำให้ชาวกัมพูชาต้องอพยพหนีภัยออกจากกรุงพนมเปญ หลังกลุ่มเขมรแดงที่นำโดยนายพล พล ได้เข้ายึดกรุงพนมเปญในปี 1975 ซึ่งหลังจากนั้นภายใต้การปกครองของกลุ่มเขมรแดงได้ทำให้ชาวกัมพูชาจำนวนมากต้องเสียชีวิตจากการถูกทารุณ ให้ใช้แรงงานหนัก อดอาหาร และถูกเข่นฆ่า
ในการพิจารณาคดีครั้งนี้จำเลยทั้งสองมาขึ้นศาลรับฟังการไต่สวนคดี แต่นายนวน เจีย ได้อยู่ในศาลเพียงราว 40 นาที ก็ได้ออกจากศาลไปเนื่องจากมีอาการปวดหลัง ด้านนายเขียว สัมพันยืนรับฟังคำพิพากษาอยู่ในคอกจำเลยโดยมีเจ้าหน้าที่คอยช่วยพยุง ขณะที่มีชาวกัมพูชาหลายร้อยคน รวมถึงชาวจามที่เป็นชนมุสลิมและพระสงฆ์เดินทางมาร่วมฟังคำตัดสินของศาลด้วย
ทั้งนี้ศาลอีซีซีซีที่มีองค์การสหประชาชาติให้การสนับสนุนอยู่ ตั้งขึ้นในปี 2005 เพื่อนำความยุติธรรมมาสู่ผู้ตกเป็นเหยื่อการปกครองอันโหดเหี้ยมของกลุ่มเขมรแดง โดยใช้กฎหมายของกัมพูชาและกฎหมายระหว่างประเทศร่วมกันในการพิจารณาคดีเขมรแดง โดยศาลแห่งนี้ได้ดำเนินคดีอดีตแกนนำกลุ่มเขมรแดงเพียง 3 คน ที่รวมถึงนายคัง เอ็ก เกียว อดีตผู้บัญชาการเรือนจำเอส-21ของกลุ่มเขมรแดงซึ่งถูกจำคุกตลอดชีวิต ส่วนนายพลตา ม็อก แกนนำระดับสูงอีกคนและนายเอียง สารี อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศของกลุ่มเขมรแดง ได้เสียชีวิตไปก่อนจะถูกดำเนินคดีเช่นเดียวกับนายพล พตที่เสียชีวิตไปในปี 1998