‘ชวลิต’ อดีต ส.ส.ดาวสภา ยัน จาก ‘ปาร์ตี้ลิสต์’ ลง ‘เขต’ ไม่ใช่เรื่องแปลก มั่นใจ พื้นที่ เขต 4 เพื่อไทยยังแน่น

เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม สนามการเมืองเริ่มคึกคักมากขึ้น หลังมีความชัดเจนในการกำหนดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยพื้นที่ จ.นครพนม มีสนามเลือกตั้ง ทั้งหมด 4 เขต ถือว่าครั้งนี้ เป็นการแข่งขันศึก 3 เส้า วัดคะแนนนิยม ระหว่างพรรคใหญ่ คือ พรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย รวมถึงพรรคการเมืองใหม่ ที่กำลังมาแรง คือ พลังประชารัฐ

โดยเฉพาะเขตเลือกตั้งที่ 4 นครพนม ถือเป็นเขตเลือกตั้งที่น่าจับตามอง เนื่องจากมีการพลิกเกมการเมือง แบบเกินคาดหมาย หลังจากนายชูกัน กุลวงษา อดีต ส.ส.นครพนม เขต 4 พรรคเพื่อไทย ผันตัวไปสังกัดพรรค พลังประชารัฐ ซึ่งเป็น อดีต ส.ส.ขวัญใจชาวบ้าน ที่มีคะแนนนิยมท้วมท้นในการเลือกตั้ง ทั้ง 2 ครั้ง

ทำให้ นายชวลิต วิชยสุทธิ์ อดีต ส.ส.นครพนม แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ต้องปรับแผนการเมือง หารือกับพรรคเพื่อไทย อาสาลงตัดสินใจเปิดตัวเตรียมพร้อมลงสมัคร ส.ส.ในพื้นที่ เขตม 4 เป็นการทดแทน เพื่อรักษาฐานที่มั่น ของพรรคเพื่อไทย ซึ่งถือเป็นอีกสนามสำคัญที่เชื่อว่า จะเป็นการชิงคะแนนนิยม ของฐานคะแนนพรรคเพื่อไทย เพราะเป็นสนามเลือกตั้ง ที่ พรรคเพื่อไทย มีคะแนนท้วมท้นมาตลอด ไม่มีพรรคไหนมามาชิงความนิยมได้มาถึง 2 สมัย

โดย นายชวลิต วิชยสุทธิ์ อดีต ส.ส.นครพนม แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า มาถึงวันนี้เป็นโอกาสดี ที่ประชาชน จะได้แสดงออกถึงความเป็นประชาธิปไตย ในการตัดสินใจเลือกผู้แทน เข้าไปเป็นปากเป็นเสียง สำหรับตนยังยืนยันว่า มีความมุ่งมั่นทำงานการเมืองมาตลอด หลังเข้าสู่เส้นทางการเมือง ตั้งแต่ลาออกจากตำแหน่งนายอำเภอเมืองยโสธร ตั้งแต่ปี 2543 หลังรับราชการมาถึง 27 ปี แต่ด้วยอุดมการณ์ทางการเมือง จึงเปลี่ยนเส้นทางชีวิต ลงสมัคร ส.ส.นครพนม ในสังกัดพรรคความหวังใหม่ จนได้รับการเลือกตั้ง และก้าวมาถึงพรรคไทยรักไทย และพรรคเพื่อไทย

นายชวลิต กล่าวต่อว่า มาถึงวันนี้ สำหรับตนไม่ใช่เรื่องใหม่ ไม่หนักใจ เนื่องจากเคยทำงานเป็นนักปกครอง ปลัดอำเภอ นายอำเภอ มาตลอด จนก้าวสู่เส้นทางการเมือง ไม่หนักใจหากจะจะเปลี่ยนเส้นทางจากผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ มาเป็น ส.ส.แบบเขต เพราะตนเข้าใจความเป็นอยู่ วิถีชีวิตชาวบ้าน อยู่กับชาวบ้านมาตลอด ไม่ว่าจะพื้นที่ไหน จังหวัดไหน ตนเชื่อมั่นถึงหัวอกประชาชน จนทำงานมีรางวัลดีเด่นมากมาย เคยได้รับรางวัลนายอำเภอดีเด่น เมื่อปี 2538 ในช่วงที่มาดำรงตำแหน่ง นายอำเภอท่าอุเทน จ.นครพนม รวมถึงเข้าไปทำงานการเมือง ยังได้รับเลือกเป็นดาวเด่นสภาปี 2553 เพราะตนเข้าใจปัญหาเดือดร้อนชาวบ้าน ทั้งนี้ในการเปิดตัวลงสมัครเป็น ส.ส.เขต 4 นครพนม ซึ่งไม่เคยรับผิดชอบพื้นที่มาก่อน แต่ตนเชื่อมั่นว่า ตนเข้าใจหน้าที่ของผู้แทน เพราะการทำงานที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทย ทำงานแบบพรรคอาชีพ ไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ ทำให้ชาวบ้านรู้แยกแยะออกว่า ใครทำงาน ไม่ทำงาน ที่สำคัญพรรคเพื่อไทย ได้ทำงานดูแลชาวบ้านมาตลอด จึงเชื่อว่า พรรคเพื่อไทย เข้าไปนั่งในใจชาวบ้าน เมื่อถึงเวลาเลือกตั้ง ชาวบ้าน ตัดสินใจได้ ว่าพรรคไหนจริงใจไม่จริงใจ ถึงจะมีบางพรรค นำสิ่งของมาแจก มาเอาใจ แต่นั้นตนไม่ได้สนใจ เพราะการทำงาน การเมือง ตนไม่แข่งกับใคร คิดเสมอว่า เราจะทำอะไรให้ประชาชน ที่เป็นสิ่งที่ยั่งยืน มาถึงวันนี้ตนพร้อมในการดูแลชาวบ้าน ในพื้นที่ เขต 4 ถึงวันเลือกตั้งชาวบ้านจะเป็นคนตัดสินเอง และการเลือกตั้งครั้งนี้ ตนจะต้องยอมลงสมัคร ส.ส.เขต เพราะต้องการรักษาความศรัทธาของชาวบ้านไว้