สื่อเทศวิเคราะห์ 2 ขั้วการเมืองไทยเผชิญหน้า ก่อนเลือกตั้ง 62

สำนักข่าวรอยเตอร์สวิเคราะห์ขั้วการเมืองไทยก่อนการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในปี 2562 ที่ตอนนี้เกิดแนวรบที่ชัดเจนระหว่างฝ่ายจารีตนิยมที่สนับสนุนรัฐบาลทหาร คสช.กับพลังประชานิยมที่นำโดยทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

รอยเตอร์สระบุว่า ฝ่ายรัฐบาลทหาร คสช.ให้คำมั่นว่าจะจัดการเลือกตั้งโดยล่าสุดคือช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปี 2562 หลังจากเลื่อนออกไปแล้วหลายครั้ง ซึ่งจะเป็นการทดสอบว่า คสช.จะฟื้นฟูประชาธิปไตยได้ตามที่สัญญาไว้หรือไม่ ท่ามกลางความกังวลที่ขยายตัวมากขึ้นว่า คสช.ยังคงมุ่งมั่นรักษาอำนาจของตัวเองไว้ต่อไป

การแข่งขันในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น คาดว่าเป็นอีกครั้งที่ กลุ่มคนเสื้อแดงที่สนับสนุนทักษิณและต่อต้านฝ่ายจารีตนิยมและกองทัพจะไม่สามารถเข้าควบคุมกลไกที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งได้ โดยเฉพาะอำนาจตุลาการและกองทัพ

ความเคลื่อนไหวอีกอย่างที่ชัดเจนคือความพยายามบั่นทอนพลังกลุ่มการเมืองของทักษิณและพันธมิตร เมื่อรัฐบาล คสช.สั่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้งหรือ กกต.ทำการสืบสวนว่านายทักษิณเข้าข่ายมีอิทธิพลครอบงำพรรคการเมืองอย่างเพื่อไทยหรือไม่ ซึ่งจะนำไปสู่การยุบพรรคหากพบว่ามีความผิดจริง โดยเรื่องนี้ นายวัฒนา เมืองสุข กล่าวถึงท่าทีดังกล่าวว่า พวกเขา(คสช.) กลัวพวกเรา มีเพียงทางเดียวที่จะโค่นเราลงได้นั้นคือพวกเขาต้องเล่นเหนือกติกา หากพวกเขาเล่นตามกฎ พวกเขาจะพ่ายแพ้

รอยเตอร์สยังระบุถึง กลุ่มการเมืองของตระกูลชินวัตรยังต้องเจอแรงกดดันหลายทิศทาง ไม่ว่ากรณีนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายของนายทักษิณที่ถูกตั้งข้อหาฟอกเงินเมื่อปี 2547 กรณีนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่เดินทางออกนอกประเทศก่อนการตัดสินคดีโครงการจำนำข้าวซึ่งเธอกล่าวว่าคดีดังกล่าวมีแรงจูงใจทางการเมือง ,กรณีแกนนำพรรคเพื่อไทยถูกตั้งข้อหาขัดคำสั่ง คสช.ห้ามชุมนุมเกิน 5 คนจากการตั้งโต๊ะแถลงครบรอบ 4 ปี คสช. รัฐประหาร 22 พฤษภาคม หรือการเข้ายึดและห้ามแพร่กระจายปฏิทินอวยพรปีใหม่ 2562 ที่มีภาพของนายทักษิณและน.ส.ยิ่งลักษณ์

แต่สิ่งที่ทำให้ คสช.ต้องใช้กกต.จัดการ คือการให้สัมภาษณ์ของนายทักษิณกับสถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเคของญี่ปุ่นที่ระบุว่า ค่ายพรรคฝ่ายประชาธิปไตยจะคว้าที่นั่ง ส.ส.ในการเลือกตั้ง 2562 ได้ 300 ที่นั่ง อย่างไรก็ตาม ทางพรรคเพื่อไทยกล่าวปฏิเสธว่าทักษิณเข้าครอบงำพรรค และระบุว่าพรรคเพื่อไทยดำเนินงานตามหลักกฎหมาย

จากภาวะความกดดันที่พรรคเพืื่อไทยเสี่ยงถูกยุบพรรรค ทำให้เกิดพรรคการเมืองสาขาอีก 3 พรรคขึ้น อาทิ พรรคเพื่อธรรม พรรคเพื่อชาติ และพรรคไทยรักษาชาติ โดยทั้ง 3 พรรคบริหารโดยอดีตสมาชิกและพันธมิตรทางการเมืองของพรรคเพื่อไทย

อีกทั้ง อีกหนึ่งแรงกดดันที่บั่นทอนพรรคใหญ่อย่างเพื่อไทยคือ รัฐธรรมนูญ 2560

อย่างไรก็ตาม รัฐบาล คสช. ก็ได้ปฏิเสธท่าทีจ้องโจมตีทักษิณและเครือข่าย โดยกล่าวว่า รัฐบาลทำเพียงดำเนินการตามกฎหมาย

ด้าน รศ.ดร.ฐิตินันท์ พงษ์สุทธิรักษ์ นักวิชาการรัฐศาสตร์ กล่าวว่า ปัญหาของผู้มีอำนาจที่อยากจะยุบพรรคเพื่อไทยนั้น ไม่ใช่ที่ตัวพรรคแต่เป็นฐานเสียงสนับสนุนพรรคที่ยังคงเหนียวแน่น เพราะต่อให้พรรคเพื่อไทยถูกยุบ เสียงสนับสนุนพรรคเพื่อไทยก็จะย้ายข้างไปเลือกพรรคสาขา การใช้กฎหมายไปเล่นงานค่ายการเมืองของทักษิณ อาจเป็นการกระตุ้นให้ผู้ใช้สิทธิ์เห็นว่า รัฐบาล คสช.จะดำเนินคดีทางการเมืองอย่างไม่ยุติธรรม

ทั้งนี้ นายวัฒนาระบุด้วยว่า หากเป็นการแข่งขันวิ่ง 100 เมตร โดยที่ฝ่ายตรงข้ามเริ่มวิ่งจาก 80 เมตร ฝ่ายเราคงเริ่มต้นจากศูนย์ แต่หากประชาชนไม่เอาทหารและระบอบเผด็จการ โอกาสชนะแบบถล่มทลายยังคงเป็นไปได้