เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน ที่ห้องประชุม 202 อาคารธำรงบัวศรี มหาวิทยาลัยบูรพา จ.ชลบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อม พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ โฆษกพรรคภูมิใจไทย เข้าร่วมเวทีเสวนาเรื่อง “น้องชวนพี่คุย อนาคตประเทศไทย ที่คนรุ่นใหม่อยากเห็น” ซึ่งจัดขึ้นโดยนายโอฬาร ถิ่นบางเตียว อาจารย์ประจำวิชารัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา โดยมีนายมานิตย์ ภาวสุทธิ์ ว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง เขต 2 ชลบุรี นายบรรจบ รุ่งโรจน์ ว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง เขต 1 ชลบุรี นายภิญโญ ตั๊นวิเศษ ว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง เขต 4 ชลบุรี และ นิสิตเข้าร่วมฟังการเสวนาประมาณ 300 คน

นายโอฬาร กล่าวว่า การเสวนาครั้งนี้เป็นการเรียนวิชาประวัติศาสตร์ทางการเมือง ซึ่งต้องการให้นิสิตได้เรียนรู้ทางการเมืองจากประสบการณ์จริง และได้เชิญหลายพรรคการเมืองมาเสวนา แต่หลายพรรคติดเรื่องเวลา ขณะที่นายอนุทินมีเวลาว่างจึงมาร่วมเสวนาในครั้งนี้ การเสวนาอยากให้นิสิตสะท้อนปัญหาระดับล่างให้พรรคการเมืองได้รับรู้ เพื่อนำปัญหาไปแก้ไขได้ถูกทิศถูกทาง ส่วนนิสิตสิ่งที่เรียกร้องในครั้งนี้ พบว่าไม่เกี่ยวข้องกับการบริหารของ คสช. แต่เกี่ยวกับปัญหารอบๆ ตัว อาทิ การเรียนฟรีในระดับปริญญาตรี การพักชำระหนี้ กยศ. การรักษาพยาบาลหากเกิดอาการเจ็บป่วย ซึ่งเป็นเรื่องของหลักประกันสุขภาพ รวมทั้งการเรียนจบจะต้องมีการงานทำ ส่วนใหญ่เรียกร้องในเรื่องส่วนตัวและครอบครัว ส่วนเสียงของคนรุ่นใหม่ที่มีสิทธิในการลงคะแนนเสียงครั้งแรกประมาณ 10 ล้านคนนั้น หากเทไปพรรคใดถือว่าเยาวชน และวัยรุ่นต้องการการเมืองในรูปแบบนั้น ซึ่งต้องจับตาดูต่อไปนายอนุทินกล่าวว่า ดีใจที่ได้พบนิสิต มหาวิทยาลัยบูรพา มีโอกาสรับฟังความคิดเห็น แนวคิดความมุ่งมั่น ความรู้สึกของเยาวชนของชาติต่อประเทศชาติ ต่ออนาคตของเยาวชน รู้สึกดีใจ ประเทศไทยไม่สิ้นหวังที่มีคนรุ่นใหม่มาสานงานแทน พบว่านิสิตมีความกระตือรือร้นทางการเมืองมาก และมีความห่วงใยประเทศ อยากให้มีความเจริญก้าวหน้า เกลียดการทุจริตคอรัปชั่น เกลียดการเอาเปรียบในสิทธิความเป็นพลเมืองของพวกเขา ประกอบกับมีความสำนึกในความเป็นประชาชนคนไทย ทำให้ตนโล่งใจ ครั้งแรกคิดว่านิสิตจะไม่สนใจเรื่องอนาคตของประเทศ แต่เมื่อได้มาพบนิสิตแล้ว พบว่าแม้จะมีความเห็นต่าง แต่จะมองประโยชน์ของบ้านเมืองเป็นหลัก
จากข้อถามที่ว่า อยากให้ประชาชนเลือกพรรคภูมิใจทั้งประเทศเพื่อไม่ต้องเลือกข้างหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ทุกคนต้องมีเป้าหมาย พรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคระดับกลาง แต่ละฝ่ายแต่ละขั้วอยากให้บอกจุดยืนมาว่าจะเลือกขั้วไหน ในการแก้ไขปัญหาของตนนั้น จะไม่อยู่ฝ่ายไหน แต่อยู่ฝ่ายประชาชน ฝ่ายประเทศไทย ทำให้ไม่ต้องมานั่งปวดหัว ไม่ถูกติฉินนินทา ทางพรรคต้องเสนอสิ่งที่ดี นโยบายที่ดีให้ประชาชน สร้างความมั่นใจให้ประชาชนเห็นว่าเลือกพรรคภูมิใจไทย จะทำให้ประเทศเจริญก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว มีความเป็นปึกแผ่น มีความสามัคคี ต้องเลือกพรรคภูมิใจไทยเยอะๆ ก็ไม่ต้องไปเลือกพรรคไหน