สรุปปรากฎการณ์ หลัง ‘มาร์ค’ ชนะหยั่งเสียง นั่ง หน.ปชป. ‘วรงค์’จับมือยินดีก่อนกลับทันที

เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน ที่พรรคประชาธิปัตย์ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศก่อนประชุมคณะกรรมการหยั่งเสียงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (กกต.ปชป.) นั้น ผู้สมัครหยั่งเสียงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคทั้ง 3 คน ทยอยเดินทางมารอฟังผลคะแนนหยั่งเสียง โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้สมัครหมาย 1 เดินทางมาถึงเป็นคนแรก ขณะที่ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ผู้สมัครหมายเลข 2 และนายอลงกรณ์ พลบุตร ผู้สมัครหมายเลข 3 เดินทางมาถึงพร้อมกัน โดยมีอดีต ส.ส.ผู้สนับสนุน นพ.วรงค์ เดินทางมาให้กำลังใจด้วย อาทิ นายถาวร เสนเนียม อดีต ส.ส.สงขลา นายวิทยา แก้วภราดัย อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าทีมกฎหมาย นายศุภชัย ศรีหล้า อดีต ส.ส.อุบลราชธานี และนายสมบัติ ยะสินธุ์ อดีต ส.ส.แม่ฮ่องสอน เป็นต้น โดยทั้งนพ.วรงค์ กับนายอลงกรณ์ ได้นั่งพูดคุยกันอย่างอารมณ์ดี ก่อนที่จะเดินขึ้นอาคาร ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช เพื่อเข้าร่วมประชุม กกต.พรรค

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการประกาศผลการหยั่งเสียงได้มีอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่ให้การสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ทยอยเดินทางมายังที่ทำการพรรคอย่างต่อเนื่อง เช่น นายจุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรค นายอัศวิน วิภูศิริ รองหัวหน้าพรรคภาคเหนือ นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ รองหัวหน้าพรรคภาคใต้ น.ส.บุณย์ธิดา สมชัย อดีต ส.ส.อุบลราชธานี นางกันตวรรณ ตันเถียร อดีต ส.ส.พังงา นางรังสิมา รอดรัศมี อดีต ส.ส.สมุทรสงคราม และ น.ส.นริศา อดิเทพวรพันธุ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช เป็นต้น เพื่อร่วมรับฟังการประกาศผลคะแนนการหยั่งเสียงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ด้วย

จากนั้น เวลา 13.00 น. ภายหลังการหารือนานกว่า 5 ชั่วโมง นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรค ได้แถลงผลการลงคะแนนหยั่งเสียงหัวหน้าพรรค โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้สมัครหมายเลข 1 ชนะผลการหยั่งเสียงจากประชาชนทั่วประเทศ ด้วยคะแนนเสียง 67,505 คะแนน ขณะที่ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ผู้สมัครหมายเลข 2 ได้คะแนน 57,689 คะแนน และนายอลงกรณ์ พลบุตร ผู้สมัครหมายเลข 3 ได้คะแนน 2,285 คะแนน โดยมีผู้ใช้สิทธิรวมทั้งสิ้น 127,480 คน คิดเป็น 16 เปอร์เซ็นต์ของยอดสมาชิกพรรคทั้งหมด สำหรับขั้นตอนต่อไป จะนำผลคะแนนการหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรคเข้าสู่ที่ประชุมใหญ่พรรคประชาธิปัตย์ในวันที่ 11 พฤศจิกายน ต่อไป

ต่อมา นายอภิสิทธิ์ได้ลุกขึ้นกล่าวขอบคุณสมาชิกและผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ว่า ทุกคนที่มีส่วนร่วมในกระบวนประวัติศาสตร์ของพรรคในครั้งนี้ที่ทำให้คนไทยทั้งประเทศ รับทราบถึงกระบวนการประชาธิปไตยภายในพรรค เพราะถือเป็นสิ่งใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นของพรรคการเมืองไทย ซึ่งตนมีความรู้สึกตื้นตันใจเวลาที่ได้เห็นหลายคนทุ่มเทและมีส่วนร่วม เห็นผู้สูงอายุเดินแทบไม่ไหวแต่ยังให้ลูกหลานประคอง เพื่อลงมาคะแนนหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรคในครั้งนี้ ฉะนั้น ทั้งหมดเป็นกำลังใจให้กับพวกเราได้เดินไปข้างหน้าต่อไป

ด้านนายชุมพล กาญจนะ ประธาน กกต.พรรค กล่าวว่า เหตุที่ไม่สามารถประกาศผลได้ เพราะระบบไอทีต้องประมวลผลจึงรอช้า โดยใช้เวลาหลายชั่วโมง ส่วนเรื่องร้องเรียนก็เป็นข้อสังเกตของทุกฝ่าย เพื่อนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคต่อไป แต่ทั้งนี้ในฐานะประธาน กกต.ทำหน้าที่มา 30 วัน ถือว่าผลการหยั่งเสียงครบถ้วน ทุกอย่างถือได้ว่ายุติและบรรลุผลแล้ว โดยเชื่อว่าความสามัคคีภายในพรรคจะกลับมายิ่งกว่าเดิมแน่นอน

ผู้สื่อข่าวรายงายว่า ภายหลังประกาศผลการหยั่งเสียงลงคะแนนเลือกหัวหน้าพรรค ผู้สมัครทั้ง 3 ได้ร่วมกันจับมือก่อนที่นายอภสิทธิ์จะขึ้นพูดขอบคุณสมาชิกและผู้สนับสนุนพรรค ระหว่างนั้นปรากฏว่า นพ.วรงค์ได้เดินออกจากห้องประชุมทันที โดยไม่ได้นั่งฟังนายอภิสิทธิ์ แตกต่างจากนายอลงกรณ์ ยังคงนั่งฟังจนจบ

หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอลงกรณ์ พลบุตร ผู้สมัครชิงหัวหน้าพรรค ปชป. หมายเลข 3 ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า “ขอแสดงความยินดีกับท่านหัวหน้าพรรคอภิสิทธิ์ ในชัยชนะการหยั่งเสียงระบบไพรมารีที่ได้รับความไว้วางใจจากสมาชิกพรรคมากที่สุด และคุณหมอวรงค์ที่ได้คะแนนจำนวนมากแม้ไม่ชนะก็ควรค่าแก่ความภูมิใจ และขอบคุณทุกคะแนนที่มอบให้ผมครับ และขอบคุณสมาชิกพรรคที่ร่วมในการลงคะแนนไพรมารีครั้งนี้ทุกคน ตลอดจนคณะกรรมการบริหารพรรค กกต.พรรค และเจ้าหน้าที่พรรค รวมทั้งอดีต ส.ส. คณะกรรมการสาขาพรรคและทีมหมูป่าประชาธิปัตย์ยุคใหม่ที่ทุ่มเททำงานจนลุล่วงภารกิจของพรรคครับ”

เช่นเดียวกับ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ผู้สมัครชิงหัวหน้าพรรค ปชป. หมายเลข 2 ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า “ผลการหยั่งเสียงออกมาแล้วครับ ผมได้รับ 57,689 คะแนน คุณอภิสิทธิ์ 67,505 คะแนน ผมยอมรับความพ่ายแพ้ครับ ยังยืนยันที่จะร่วมมือกับผู้ชนะครับ เพื่อพรรคประชาธิปัตย์และประเทศของเรา”