จำคุก 1 ในผู้ต้องหาฉ้อโกง”ข้าวกล่อง” คดียาเสพติด 1 ปี ปรับ 1 แสน ไร้คนประกันนอนคุก

ศาลอุทธรณ์ภาค6 พิพากษายืนจำคุก1ในผู้ต้องหาฉ้อโกงข้าวหมื่นกล่อง ในคดียาเสพติด 1 ปี ปรับ 1เเสนบาท ไร้คนยื่นประกันคอตกนอนเรือนจำ

จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ที่ผ่านมาพนักงานสอบสวน สภ.พญาแมน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ ได้ควบคุมตัว นางธนิตา หรืออิ๋ว จันทร์อิ่ม และ น.ส.กัญจ์หทัย สุขใจ 2ผู้ต้องหาในความผิดฐาน”ฉ้อโกงทรัพย์ “ไปฝากขังต่อศาลจังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นคดีหมายเลขดำ ผ.1553/2561

กรณีนางธนิสร กุยแก้ว อายุ 42 ปี ชาวบ้านหมู่ 8 ต.วังกะพี้ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ เข้าแจ้งความถูกหลอกให้ทำข้าวกล่องและน้ำดื่มส่งโรงงานแห่งหนึ่งใน จ.พิษณุโลก วันละ 1 หมื่นกล่อง น้ำอีก 1 หมื่นขวด แต่สุดท้ายไม่ยอมรับอาหารดังกล่าว อ้างว่าผิดสัญญา พร้อมเรียกเงินค่าปรับ ทำให้เสียเงินค่าลงทุนเป็นจำนวนเกือบ 1 ล้านบาท

ซึ่งศาลได้อนุญาตผัดฟ้องฝากขังมีกำหนดครั้งละ6วันไปเเล้วนั้น

เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่8 พฤศจิกายน ในวันเดียวกันนั้น สำหรับนางสาวธนิตา หรือ อิ๋ว จันทร์อิ่มผู้ต้องหาที่1เป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีอาญา หมายเลขแดงที่2074/2560ของศาลจังหวัดอุตรดิตถ์ ในความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษฯ ซึ่งคดีอยู่ระหว่างนัดฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 6 แต่จำเลยได้อ้างเหตุเจ็บป่วยขอเลื่อนการฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์หลายครั้ง ซึ่งศาลได้เคยนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ครั้งสุดท้ายในวันที่12พฤศจิกายน 61

แต่เมื่อจำเลยปรากฎตัวต่อศาล ศาลจึงอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค6ให้จำเลยฟังในวันที่8พฤศจิกายน61 ซึ่งเป็นวันที่มีการผัดฟ้องฝากขัง

โดยศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้จำคุก1ปี และปรับ1แสนบาท

ส่วนคดีฉ้อโกงนั้นมีผู้มาติดต่อเพื่อขอปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาที่1 แต่เมื่อฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่ได้สั่งจำคุกผู้ต้องหาที่1แล้ว จึงแจ้งความประสงค์ไม่ขอปล่แยชั่วคราวผู้ต้องหาที่1 ในทั้งสองคดี สำหรับผู้ต้องหาที่2นั้นไม่มีผู้ใดมายื่นขอปล่อยชั่วคราวแต่อย่างใด