จากกรณีกระทรวงสาธารณสุข(สธ.)ได้มีการเสนอขอให้คณะรัฐมนตรี(ครม.)พิจารณาทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2516 เพื่อขอเพิ่มค่าปรับนักศึกษาแพทย์ผู้ผิดสัญญาการเป็นนักศึกษาวิชาแพทยศาสตร์ จากจำนวน 400,000 บาท เป็น 2,500,000 บาท โดยขอให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปีการศึกษา 2562 เป็นต้นไป โดยมอบให้สธ.ทำหน้าที่ประสานกับสถาบันการผลิตนักศึกษาแพทยศาสตร์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนั้น

นพ.กำจร  ตติยกวี   อดีตปลัดศธ.  กล่าวว่า กรณีเตรียมเพิ่มค่าปรับนักศึกษาแพทย์ ที่ไม่ทำงานใช้ทุนจาก 4 แสนบาท เป็น 2.5 ล้านบาทนั้น มีทั้งข้อดีและข้อเสีย โดยข้อดีคือ ช่วยทำให้แพทย์จบใหม่ทำงานใช้ทุนในโรงพยาบาลต่างๆ ได้นานขึ้น แต่ขณะเดียวกัน หากแพทย์เลือกเสียค่าปรับ ก็อาจออกไป เป็นแพทย์เชิงพาณิชย์มากขึ้น เพราะเขาต้องเสียค่าปรับในราคาที่แพง ก็อาจจำเป็นต้องหารายได้ เพื่อให้ได้เงินที่เสียไปกลับคืนมาก  อย่างไรก็ตามภาพรวมตนไม่เห็นด้วยกับการแก้ปัญหานี้ทั้งหมด เพราะการไม่ใช้ทุน  อาจมีหลายปัจจัย เช่น ต้องกลับไปดูแลครอบครัว เพราะส่วนใหญ่ จะถูกส่งไปอยู่ในโรงพยาบาลชนบทห่างไกล ต้องลุยกับปัญหาด้วยตัวเอง ขณะที่แพทย์ที่มีประสบการณ์ส่วนใหญ่ จะประจำอยู่ในโรงพยาบาลประจำจังหวัด ดังนั้นจึงอาจต้องพิจารณาหาแนวทางแก้ปัญหาส่วนอื่น ๆ ประกอบด้วย  หรือหากจะมีการขึ้นค่าปรับก็ควรอยู่ในระดับที่เหมาะสมไม่ใช่ขึ้นแพงเป็น 10 เท่าเช่นนี้