เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ว่าที่พ.ต.สมบัติ วงศ์กำแหง โฆษกสภาทนายความ ให้ความเห็นถึงกรณีที่มีข่าวว่ามีการสั่งซื้อข้าวกล่องจำนวนมาก เเต่พอในตอนรับสินค้าผู้ที่สั่งกลับไม่ยอมรับสินค้า ว่า กรณีเรื่องจ้างทำข้าวกล่อง นั้นจากข้อเท็จจริงเบื้องต้นพบว่ามีการทำสัญญาจ้างทำข้าวกล่องและน้ำดื่มวันละหมื่นชุด แล้วเกิดปัญหาโต้แย้งกันว่าน้ำดื่มเเละการส่งข้าวกล่องไม่ได้เป็นไปตามสัญญาจึงปฏิเสธไม่รับข้าวกล่อง และจะปรับแม่ค้าเป็นเงิน หลายเเสนบาท หากมองว่าเป็นเรื่องผิดสัญญาทางแพ่ง ก็ต้องไปว่ากล่าวกันทางแพ่ง เเต่จากภาพข่าวที่ปรากฏ ในเบื้องต้น แม่ค้าเสียหายแน่นอน ข้าวกล่องกว่า 10,000 กล่อง และน้ำดื่ม 10,000 ชุด หากมีต้นทุนชุดละ 50 บาท ก็เสียหายกว่า 500,000 บาท เมื่อรวมกับค่าปรับแล้ว ถือว่าเสียหายหนักมากสำหรับแม่ค้า

ประเด็นข้อสังเกต ในกรณีนี้ หากผู้ว่าจ้างเป็นกลุ่มคนเดียวกัน กับกรณีที่เคยเกิดขึ้น มาก่อนหน้านี้ หรือหากปรากฏข้อเท็จจริงว่า ผู้ติดต่อว่าจ้าง ไม่ได้มีเจตนาที่แท้จริงในการที่จะว่าจ้างทำข้าวกล่อง แต่ตั้งใจที่จะหลอกให้พ่อค้าหรือแม่ค้าที่คาดหวังถึงรายได้หรือผลประโยชน์ที่จะได้ในอนาคต เพื่อให้ผู้ว่าจ้างได้รับผลประโยชน์จากพ่อค้าแม่ค้าดังกล่าว โดยตั้งใจจะไม่รับเอาข้าวกล่องและน้ำดื่มทั้งหมด แต่จะอ้างว่าอาหารและน้ำดื่ม ไม่ได้มาตรฐาน บ้างผิดสัญญาบ้าง เพื่อจะเรียกค่าปรับ หากมีข้อเท็จจริง หรือหลักฐานบ่งชี้ว่ามีลักษณะดังกล่าว เรื่องนี้จะกลายเป็นเรื่องฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา341หรือฉ้อโกงประชาชนตามมาตรา343ได้

เรื่องนี้จำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้รับผิดชอบต้องรีบเข้าไปช่วยดูแลและทำข้อเท็จจริงทั้งหมดให้กระจ่าง เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ทุกคนด้วย ว่าที่ พ.ต.สมบัติกล่าวทิ้งท้าย