เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกวุฒิสภาและฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ณัฐไชยเฉลิม วงศ์ใหญ่ สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. เพื่อแจ้งความเอาผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ต่อ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก และนายราเมศ รัตนะเชวง รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ หลังโพสต์ข้อความเฟซบุ๊กกล่าวหาว่า นายเรืองไกรบิดเบือนคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กรณีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ปี 2554

นายเรืองไกร กล่าวว่า กรณีนี้ได้นำคำพิพากษาของศาลฯมาอ่านต่อหน้ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังที่ดำรงตำแหน่งในขณะนั้นว่า เหตุใดงบการเงินแผ่นดินจึงไม่มีงบขาดดุล ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคำพิพากษาในคดีทุจริตโครงการจำนำข้าวทั้งสิ้น โดยทั้ง นพ.วรงค์ และนายราเมศ เข้าใจว่า ตนหมิ่นคำพิพากษาของศาลว่า ไม่เป็นความจริง เพราะคดีที่ตัดสินนั้นเป็นคดีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ระงับยับยั้งการระบายข้าว ซึ่งศาลไม่ได้พิจารณาในเรื่องการทุจริตในเรื่องของการจำนำข้าวแต่อย่างใด

นายเรืองไกร กล่าวอีกว่า ทั้ง นพ.วรงค์ และนายราเมศ ยังระบุหลังยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาฯ ว่า กระทรวงการคลังได้ออกหนังสือยึดทรัพย์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จำนวน 35,000 ล้านบาท ซึ่งความจริงได้ออกคำสั่งดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 13 ต.ค. ปี 2559 ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนที่ศาลฯ จะอ่านคำพิพากษาเมื่อวันที่ 27 ก.ย. ปี 2560 จึงไม่เป็นความจริง ในวันนี้ตนจึงได้นำหลักฐานที่ นพ.วรงค์ และ นายราเมศ ระบุไว้ดังกล่าวให้เจ้าหน้าที่ พิจารณาความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา14(1 ต่อเนื่อง 2) “นำเข้าข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ความมั่นคงปลอดภัยของเศรษฐกิจ ต่อสาธารณะและประเทศ” ว่าจะเข้าข่ายหรือไม่

โดยนายเรืองไกรจะเดินทางไปแจ้งความในคดีหมิ่นประมาทต่อที่สน.บางซื่อ ซึ่งเป็นหน่วยงานในท้องที่ ในเวลา 12.00น. ของวันนี้ต่อไป