สรุปข่าวต่างประเทศ : เผยแผนสกัด ‘ไอเอส’ ลอบสังหาร ‘ทรัมป์’/ ของขวัญชิ้นแรกแด่รัชทายาท ”เจ้าชายแฮร์รี-เมแกน”/ “คิม จอง อึน” ตั้งใจละทิ้งโครงการอาวุธนิวเคลียร์

สหรัฐอเมริกา

วอชิงตัน – เว็บไซต์นิวส์วีกรายงานว่า กลุ่มกองกำลังรัฐอิสลาม (ไอเอส) เคยมีความพยายามในการลอบสังหารประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ระหว่างการเยือนกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2560 ในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน

โดยแผนการลอบสังหารดังกล่าวถูกเก็บเป็นความลับเอาไว้เกือบปี กระทั่งเนชั่นแนล จีโอกราฟิก นำเรื่องดังกล่าวออกมาเปิดเผย ในรายงานพิเศษเกี่ยวกับหน่วยอารักขาประธานาธิบดีสหรัฐ หรือซีเคร็ต เซอร์วิส โดยรายงานระบุว่า มีการข่มขู่ทรัมป์หลายครั้งผ่านทางสื่อออนไลน์ก่อนหน้าที่ทรัมป์ที่จะเดินทางถึงกรุงมะนิลา และมีข้อความทวีตข่มขู่พร้อมโพสต์ภาพใบหน้าของนายลี ฮาร์วีย์ ออสวอลด์ ผู้ก่อเหตุลอบสังหารประธานาธิบดีจอห์น เอฟ. เคนเนดี้ ของสหรัฐ

ก่อนหน้าที่ทรัมป์จะเดินทางถึงฟิลิปปินส์ ไอเอสยังได้ปล่อยวิดีโอชุดหนึ่งออกมาพร้อมกับข้อความข่มขู่ประธานาธิบดี ซึ่งในนั้นมีภาพหนึ่งเป็นภาพที่ทรัมป์มีรอยกระสุนอยู่เต็มตัว และมีข้อความที่บอกว่ามีการดักซุ่มและซุ่มโจมตีทรัมป์อยู่ ขณะที่มีบัญชีอินสตาแกรมของคนหนึ่ง ที่เจ้าหน้าที่ของซีเคร็ต เซอร์วิส พบเป็นภาพของเจ้าของอินสตาแกรมถือหนังสือ “เฮา ทู คิลล์ : เดอะ เดฟินิทีฟ ฮิสทรี ออฟ ดิ แอสแซสซิน” อยู่

โดยเจ้าหน้าที่พบว่ามีนักรบญิฮาดคนหนึ่งหลบซ่อนตัวอยู่ในย่านชุมชนแห่งหนึ่งในกรุงมะนิลา ที่อยู่ห่างออกไปไม่กี่บล๊อกจากโรงแรมที่ทรัมป์พำนักอยู่ ซึ่งตอนที่เจ้าหน้าที่ซีเคร็ต เซอร์วิส พบเรื่องนี้ เป็นเวลาที่อีก 20 นาทีที่เครื่องแอร์ฟอร์ซวันของทรัมป์กำลังจะลงจอดที่กรุงมะนิลา

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ของซีเคร็ต เซอร์วิส ตามรอยสมาชิกของไอเอสไปจนถึงสวนแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ห่างจากโรงแรมที่ทรัมป์พักเพียง 1 ไมล์ และตอนที่เจ้าหน้าที่ซีเคร็ท เซอร์วิสไปถึง สมาชิกไอเอสคนนี้กำลังพูดคุยอยู่กับผู้ช่วยอีกคนหนึ่ง ก่อนที่เจ้าหน้าที่ของซีเคร็ต เซอร์วิส จะเข้าจับกุมตัวคนเหล่านี้เอาไว้ได้ และทำให้แผนลอบสังหารทรัมป์ล้มเหลวลงในที่สุด

ออสเตรเลีย

ซิดนีย์ – สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เจ้าชายแฮร์รี่ และเมแกน ดยุคและดัสเชสแห่งซัสเซกซ์ ทรงได้รับของขวัญชิ้นแรกสำหรับรัชทายาทที่อยู่ในครรภ์ของเมแกน ระหว่างการเสด็จเยือนนครซิดนีย์ ประเทศออสตรเลีย เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม เป็นรองเท้าบู๊ต “อักก์” ซึ่งเป็นรองเท้าบู๊ตชื่อดังของประเทศออสเตรเลีย สำหรับเด็ก 1 คู่ จากผู้สำเร็จราชการแทนเครือรัฐออสเตรเลีย ในการปรากฏตัวของทั้งสองพระองค์เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่พระราชวังเคนซิงตันออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ว่าเมแกนได้ทรงพระครรภ์แล้ว หลังจากทั้งสองพระองค์เสด็จถึงประเทศออสเตรเลียได้ไม่นาน โดยทั้งสองพระองค์ยังได้เสด็จไปยังสวนสัตว์และฉายพระรูปกับหมีโคอาล่าคู่หนึ่ง และเสด็จไปยังบริเวณโอเปร่าเฮาส์ ก่อนจะเสด็จลงเรือข้ามอ่าวซิดนีย์

ทั้งนี้ เจ้าชายแฮร์รี่และเมแกนอยู่ระหว่างการเสด็จเยือนออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ฟิจิและตองกา เป็นเวลา 16 วัน ซึ่งทางสำนักพระราชวังเคนซิงตันแถลงว่า ไม่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหมายกำหนดการของทั้งสองพระองค์แต่อย่างใด แม้ว่าเมแกนจะกำลังทรงพระครรภ์อยู่ก็ตาม

เกาหลีใต้

โซล – สำนักข่าวเอพีและเอเอฟพีรายงานว่า ประธานาธิบดีมุน แจ อิน ของเกาหลีใต้ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ เลอ ฟิกาโรของฝรั่งเศสเมื่อวันที่ 14 ตุลาคมว่า นายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือจริงใจและตั้งใจที่จะละทิ้งโครงการอาวุธนิวเคลียร์ และประชาคมนานาชาติจำเป็นต้องให้รางวัลกับตนในเรื่องนี้

นายคิมและประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกาให้สัญญาในการประชุมสุดยอดครั้งประวัติศาสตร์ที่สิงคโปร์เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาว่าจะทำงานไปสู่การปลดอาวุธนิวเคลียร์ แต่เกาหลีเหนือปฏิเสธที่จะสำแดงโครงการอาวุธนิวเคลียร์และโรงงานผลิต หรือเห็นพ้องกับกรอบเวลาที่เป็นรูปธรรม ในขณะที่เกาหลีเหนือหยุดทดสอบอาวุธนิวเคลียร์และมิสไซล์ในปีนี้ และล้มเหลวในการรักษาสัญญาที่จะให้นานาชาติเข้าไปตรวจสอบการรื้อถอนสถานที่ทดสอบพุงเกรีในเดือนพฤษภาคม เป็นการจุดชนวนให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าย่างก้าวนี้อาจมีการย้อนกลับได้

แต่นายมุนกล่าวว่า นายคิม “จริงใจ สงบ และสุภาพ” และรู้สึก “ผิดหวังกับประชาคมนานาชาติที่ยังคงไม่ไว้วางใจ”