“บิ๊กตู่” สั่งทบทวนร่าง พ.ร.บ.ไซเบอร์ ไม่เห็นด้วยอำนาจหน้าที่คลุมเครือ

เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกฯ เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยังไม่ได้รับความกังวลของประชาชนเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ฉบับที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ปรับแก้ไขแล้ว จึงสั่งการให้ฝ่ายกฎหมายไปดูแลเรื่องดังกล่าว หากร่างกฎหมายเป็นไปตามกระแสข่าว เช่น แค่อ้างเหตุสงสัยว่าจะกระทบความมั่นคงก็สามารถตรวจค้นข้อมูลส่วนตัวและข้อความสนทนาของประชาชนได้ หรือบุกค้นและยึดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ได้โดยไม่ต้องมีหมายศาล รวมถึงห่วงว่าจะมีการให้อำนาจแก่เลขาธิการคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ มากจนเกินไป เป็นต้น ก็ไม่เห็นด้วยเช่นกัน นายกรัฐมนตรีจึงขอให้ประชาชนอย่าเพิ่งหวั่นวิตก เพราะร่าง พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ฉบับนี้ ยังต้องเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติอีก ซึ่งมีขั้นตอนในการพิจารณาถึง 3 วาระ นอกจากนี้ ยังได้มอบให้ฝ่ายกฎหมายไปทบทวนรายละเอียดและรับฟังความคิดเห็นให้มากขึ้น

ผช.เลขาธิการ ป.ป.ช. “หัวร้อน” งัดปืนขู่คนขับรถแท็กซี่คู่กรณี

จากกรณีที่มีการโพสต์คลิปทางเฟซบุ๊กโดยผู้ใช้ชื่อ “เฮียขับรถ” เรื่องการขับรถกระทบกระทั่งกันแล้วมีการชักปืนออกมาขู่อย่างไม่เหมาะสม บริเวณศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ โดยผู้ที่อยู่ในคลิปดังกล่าวเป็นที่ฮือฮาอย่างมากในโลกออนไลน์ เพราะคือ นายพิเศษ นาคะพันธ์ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)

ต่อมาเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม ที่ สน.ทุ่งสองห้อง นายพิเศษได้เข้าพบตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อให้ปากคำว่า ในวันเกิดเหตุตนกับคุณป้าเดินทางมาทำธุระที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ อาคาร B ใช้เส้นทางคลองประปา จากนั้นรถติดไฟแดงก่อนทางเข้าอาคาร A พอสัญญาณไฟเป็นสีเขียว รถแท็กซี่คันที่ตามหลังขับปาดมาด้านหน้าก่อนเลี้ยวเข้าศูนย์ราชการ แล้วหยุดรถกะทันหัน ทำให้ตนบีบแตรเตือน 1 ครั้ง ก่อนจะขับรถแซงออกไป เพราะรีบไปทำธุระที่อาคาร B แต่แท็กซี่คันดังกล่าวพยายามขับรถตามมาด้วยความเร็ว และบีบแตรใส่หลายครั้ง พร้อมกับเปิดไฟหน้ารถลักษณะไม่พอใจ พอจังหวะขึ้นลูกระนาด ตนกับญาติชะลอและหยุดรถเพื่อถามว่าแท็กซี่คันดังกล่าวขับรถตามมาทำไม ส่วนที่ถือปืนในลักษณะคล้ายข่มขู่โดยยกขึ้นมานั้น เพราะส่วนตัวเห็นท่าไม่ดี กลัวคนขับแท็กซี่ทำร้าย จึงต้องการแสดงให้เห็นว่าตนมีอาวุธป้องกันตัว โดยอ้างว่า ไม่คิดจะลั่นไกปืน ทำแค่ป้องกันให้ถูกหยุดไล่ตามเท่านั้น จนมี รปภ. อาคาร A ในศูนย์ราชการ มาห้ามไว้ จากนั้นรถแท็กซี่คันดังกล่าวก็ขับรถหายไปทางอื่น ทั้งนี้ อยากให้สังคมเห็นคลิปก่อนหน้านี้ ไม่ใช่แค่คลิปที่ตัวเองชักปืนที่ถูกปล่อยในโลกออนไลน์แล้วด่วนตัดสิน

ด้าน พ.ต.อ.ปริญญา เหลืองอุทัย ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง กล่าวว่า จะแจ้งข้อหาการมีและพกพาอาวุธปืนไปในเมืองและที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ด้าน ป.ป.ช. ได้สั่งตั้งกรรมการสอบให้ได้ข้อเท็จจริงภายใน 15 วัน

ทีมหมูป่าพบนายกฯ หลังรับ Asia Game Changer Awards

เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ในฐานะประธานกรรมการสื่อสร้างสรรค์ กรณีถ้ำหลวง จ.เชียงราย นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผวจ.พะเยา นายเอกพล จันทะวงษ์ ผู้ช่วยโค้ชและเด็กทีมฟุตบอลเยาวชนหมูป่า อะคาเดมี่ ทั้ง 13 คน เข้าเยี่ยมคารวะและมอบรางวัล Asia Game Changer Awards ที่ได้รับจากสมาคม Asia Society Association ให้แก่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)

รางวัล Asia Game Changer Awards ของสถาบันความร่วมมือระหว่างชาติ หรือ The Asia Society นี้เป็นรางวัลที่มอบให้คนและกลุ่มคนที่มีผลงานการสร้างแรงจูงใจหรือเปลี่ยนโลกได้ โดยทำพิธีมอบให้ที่สหรัฐ

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ต้องขอบคุณที่เผยแพร่ชื่อเสียงให้กับคนไทย ที่ได้รับการยอมรับจากเวทีโลก ซึ่งทุกประเทศชื่นชมการช่วยเหลือของหน่วยงาน รัฐบาล และประชาชน เป็นครั้งเดียวในโลกที่เห็นภาพนี้

“สมยศ” เผย “วิสา คัญทัพ” ป่วยโรค “พาร์กินสัน” ในต่างแดน

นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข อดีตแกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย โพสต์เฟซบุ๊ก “Somyot Pruksakasemsuk” ถึงการพบเจอกับนายวิสา คัญทัพ แกนนำ นปช. ที่หลบหนีคดีจากประเทศไทย พร้อมกับนางไพจิตร อักษรณรงค์ ภรรยา ไปอยู่ที่ประเทศเยอรมนี โดยนายวิสามีอาการซูบผอมลงไปมาก เดินอย่างเชื่องช้า ใบหน้าสั่นคลอนด้วยอาการของโรคพาร์กินสัน ซึ่งนายวิสากล่าวว่า ค่ารักษาพยาบาลแพงมาก อีกทั้งอายุมากแล้ว เดินทางลำบาก และไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ จึงทำให้ใช้ชีวิตอย่างลำบาก โดยไม่มีใครช่วยเหลือ นายสมยศยังระบุด้วยว่า นอกจากนายวิสาแล้ว ผู้ที่หลบหนีภัยทางการเมือง อย่างนายจรัล ดิษฐาอภิชัย อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนก็มีปัญหาสุขภาพ นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล หกล้ม เส้นเลือดในสมองด้านซ้ายแตก ก็กำลังฟื้นฟูร่างกายในโรงพยาบาล นายทอม ดันดี ที่ถูกตีตรวนในกรงขังจนแทบจะเป็นบ้าด้วย

ถือเป็นชะตากรรมที่น่าอดสูของ “ผู้ต้องคดีร้ายแรง-นักโทษการเมือง”