“ภราดร” ท้า คสช. ยกเลิก ม.44 ลงสนามเล่นตามกติกา ฝันอยากเห็นกกต.เป็นกลาง พรรคการเมืองเลิกสาดโคลนใส่กัน

แฟ้มภาพ

“ภราดร” ท้า คสช. ยกเลิก ม.44 ลงสนามเล่นตามกติกา ฝันอยากเห็นกกต.เป็นกลาง พรรคการเมืองเลิกสาดโคลนใส่กัน

เมื่อเวลา 14.15 น. วันที่ 14 ตุลาคมห้องประชุม LT1 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มธ. และเครือข่ายประชาชนเพื่อการเลือกตั้งที่เสรี เป็นธรรม และมีผลในทางปฏิบัติ (Free, Fair & Fruitful Election) หรือ FFFE จัดเสวนา “การเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรมกับอนาคตสังคมและการเมืองไทย” โดยมีตัวแทนพรรคการเมือง อาทิ นายจาตุรนต์ ฉายแสง พรรคเพื่อไทย ,นายศุภชัย ใจสมุทร พรรคภูมิใจไทย ,นายปิยบุตร แสงกนกกุล พรรคอนาคตใหม่,นายวิรัตน์ วรศสิริน พรรคเสรีรวมไทย,นายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ พรรคประชาชาติ,นายภราดร ปริศนานันทกุล พรรคชาติไทยพัฒนา และนายราเมศ รัตนะเชวง พรรคประชาธิปัตย์

นายภราดร กล่าวว่า ถึงวันนี้ก็ 45 ปีเต็มที่ เรามีเหตุการณ์ปฏิวัติประชาชน แต่ไม่น่าเชื่อว่า 45 ปี ผ่านไป สถานการณ์วนกลับมาเหมือนเดิมเราอยู่ในสถานการณ์ที่เผด็จการครองเมืองเหมือนครั้งที่แล้ว แม้เวลาไม่ยาวนาน แต่ตนเชื่อว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย ชัยชนะจะตกเป็นของประชาชนอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามชนชั้นใดเขียนกฎหมายแน่ไซร้เพื่อชนชั้นนั้น เราจึงไม่ต้องคาดหวังว่ากฎหมายที่เขียนด้วยเผด็จการจะเป็นธรรม ดังนั้นขอเรียกร้องกับทุกคนรวมกันต่อสู้ไปข้างหน้าด้วยกันเพื่อความถูกต้อง ซึ่งตนเป็นนักการเมืองมา 10 กว่าปี พบว่าเสียงข้างมากในสภามักจะตรงข้ามกับความต้องการของประชาชนเสมอ ซึ่งไม่ว่ารัฐบาลเผด็จการหรือรัฐบาลปกติที่มาจากการเลือกตั้ง เราอยู่ในสถานการณ์ของกีฬาสีมาตลอดเวลา เห็นว่าคนที่อยู่ตรงข้ามทำอะไรก็ผิด คนข้างเดียวกันทำอะไรก็ถูก ซึ่งตนไม่อยากเห็นแบบนี้อีกแล้ว เราต้องยืนอยู่กับหลักประชาธิปไตย และความถูกต้อง

นายภราดร กล่าวอีกว่า ขณะที่การเลือกตั้งที่จะมาถึงนั้น มีใครให้ความเชื่อมั่นได้หรือไม่ว่า 24 กุมภาพันธ์ 2562 จะมีการเลือกตั้งแน่หรือไม่ เพราะมีคำสั่ง คสช. กติกาหลายอย่างที่ทำให้ไม่เชื่อว่าประเทศจะเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง ซึ่งตนอยากจะเห็นประชาชนมีการแสดงความเห็นที่เป็นอิสระ และเสรีในทุกเวทีของไทย อยากเห็นพรรคการเมืองออกไปพบปะกับประชาชน และรับฟังความเห็นเพื่อนำกลับมาทำนโยบาย อยากจะเห็นความเป็นอิสระของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)จะต้องเป็นตัวของตัวเอง ตัดสินผู้เล่นทุกคนบนกติกาเดียวกัน ทำให้การเลือกตั้งออกมาสุจริตและเที่ยงธรรม ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อผู้คุมกติกาใหญ่ปล่อยโลกให้หมุนไปตามกติกา ไม่ใช่ล็อกการเมือง ล็อกประชาชน ไม่ได้อยู่ในบรรยากาศประชาธิปไตย ซึ่งตนอยากเห็นการปลดล็อกทุกคำสั่ง ทุนเงื่อนไข ให้ทุกคนเชื่อว่า กุมภาพันธ์ 62 มีการเลือกตั้งจริง ไม่ต้องฟังอาณัติสัญญาจากใคร ไม่ใช่ฝ่ายที่ท่านสนับสนุนจะแพ้แล้วท่านปิดไฟ และที่สำคัญตนอยากเห็นคสช.ที่แปลงร่างจากกรรมการมาเป็นผู้เล่น เล่นอยู่ในกติกา ไม่ได้ทำให้ทีมอื่นด้อยกว่า เพราะทุกพรรคมีบทเรียนมาแล้วและพร้อมที่จะเล่นตามกติกา ขอเรียกร้องทุกพรรคเมื่อมีพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้งขอให้ยกเลิกการสาดโคลนใส่กันได้หรือไม่ ทั้งนี้ในส่วนของผลของการเลือกตั้งนี้จะเกิดขึ้นเมื่อทุกฝ่ายตอบสนองความต้องการของประชาชน เราต้องไม่ทำให้การเลือกตั้งเป็นแค่พิธีกรรมในทางประชาธิปไตย

“ผู้มีอำนาจท่านกล้าหรือไม่ ยกเลิกม.44 ลงมาเล่นในกติกาที่ท่านเขียน ไม่ใช่เล่นในกติกาที่ท่านเขียนเหนือกว่าไปอีก 2 ขั้น เชิญชวนต่างชาติเข้ามาสังเกตการ ว่าการเลือกตั้งยุติธรรมและเสรีแค่ไหน ที่สำคัญเมื่อผลการเลือกตั้งออกมาแล้ว ประชาชนตัดสินใจแล้ว ทุกฝ่ายกล้าหรือไม่ว่าเราจะไม่บิดเบือนเจตนารมณ์ของประชาชน เราต้องเดินหน้าตามเจตนารมณ์ของเขา เพราะถ้าผิดไปจากนี้ พยายามที่จะบิดเบือนให้การเลือกตั้งสกปรกที่สุดในประเทศไทย จะกลายเป็นฉนวนความขัดแย้งในครั้งต่อไป เนื่องจากกติกาวันนี้ไม่เป็นธรรม ไม่เป็นไปตามวิถีทางของประชาธิปไตยเสียเลย ขอเชื่อชวน 7 พรรคการเมืองในวันนี้มาตั้งกติกาใหม่ ตั้ง สสร. เราอยู่แค่ปีเดียวเดินหน้าทำให้ ตั้งคณะกรรมการยกร่างสร้างกติกาใหม่ของประเทศร่วมกันใหม่” นายภราดร กล่าว