‘หญิงหน่อย’ ลั่น ไม่พร้อมร่วมงานกับ ‘บิ๊กตู่’ ในสนามการเมือง ถ่อมตน ไม่คิดเป็น นายกฯหญิง

‘หญิงหน่อย’ ลั่น ไม่พร้อมร่วมงานกับ ‘บิ๊กตู่’ ในสนามการเมือง ถ่อมตน ไม่คิดเป็น นายกฯหญิง อีกคน ยัน ‘ลูกทักษิณ’ สนใจร่วมสมาชิกเพื่อไทยเป็นสิทธิ ไม่เกี่ยวกับ ‘สายเลือดชินวัตร’ ปัดมีรายชื่อบินพบ’ทักษิณ’ ที่ฮ่องกง ขออย่านำไปเชื่อมโยง เผย 28ต.ค.นี้ ชัดเจนอนาคตทางการเมือง

คุณหญิง สุดารัตน์ เกยุราพันธ์ุ แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่าในวันที่ 28 ตุลาคมนี้ซึ่งจะเป็นวันเลือกหัวหน้าพรรคเพื่อไทยจะชัดเจนอนาคตทางการของตนเอง ส่วนจะได้นั่งตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับผลการเลือกในวันนั้น แต่เชื่อว่าบุคลากรในพรรคเพื่อไทยทุกคนมีความสามารถและมีสิ่งการันตีในอดีต ว่าเป็นพรรคที่คิดนโยบายเป็น และทำสำเร็จมาแล้ว และจะเดินหน้าทำต่อไปเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน โดยเฉพาะประชาชนที่มีความยากจน /

คุณหญิงสุดารัตน์ยังย้ำด้วยว่าไม่คาดหวัง ว่าจะได้ตำแหน่งในพรรคเพื่อไทยแต่ขอเป็นแค่ฟันเฟืองหนึ่งในการขับเคลื่อนอยู่ในบ้านหลังนี้ ถ้าสิ่งไหนสามารถทำได้ก็จะใช้ความรู้และประสบการณ์ที่ถนัดทำงานร่วมกับผู้ที่มีความรู้ความสามรถกับพรรคเพื่อไทย ทั้งนี้เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยมีคนที่เหมาะสมกับงานแต่ละด้านอยู่แล้วและไม่ได้ปราถนาที่จะมีตำแหน่งใดในพรรค

ส่วนที่มีคนมองว่าพรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้งหากคุณหญิงสุดารัตน์ถือธงนำพรรคเพื่อไทยผ่าดงการเมืองนั้น ไม่ว่าจะเป็นใคร ที่จะขึ้นมานำพรรคก็จะสามารถเดินตามแนวทางนโยบาย และสิ่งที่คิดว่าจะทำให้ประเทศชาติดีขึ้นได้

ส่วนที มีคนมองว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงอีกคนหนึ่งนั้น กล่าวว่ส ไม่เคยคิดว่าจะได้ตำแหน่งอะไร เพราะการเป็นนายกฯของประเทศไทยโดยเฉพาะในยุคนี้เป็นเรื่องยากลำบากมาก เนื่องจากว่ามีระบบกลไกที่พิกลพิการไปหมด
ส่วนลูกชายและลูกสาวของนายทักษิณประกาศชัดเจนจะร่วมเป็นสมาชิกพรรคจะช่วยสร้างความชัดเจนให้กับพรรคเพื่อไทยนั้นมองว่า เป็นความต้องการส่วนตัวของทั้งสามคน ที่อยากจะให้กำลังใจร่วมกันกับพรรคเพราะทุกคนรู้ว่าในยามนี้ เส้นทางเดินของพรรคเพื่อไทย ไม่ได้ง่าย และไม่ได้อยู่ในสถานะที่ได้รับความเท่าเทียมในโลกที่กำลังจะเปลี่ยนเป็นประชาธิปไตย โดยเฉพาะ ในทางกฎหมายและความยุติธรรม
และการที่สามประกาศสนใจการเมืองถือว่าเป็นการประกาศตัวของคนรุ่นใหม่และหวังว่าประชาธิปไตย ทำให้ประเทศไทยได้รู้จักปัญหา

ขณะเดียวกันก็ไม่หวั่นที่ถูกมองว่าพรรคเพื่อไทยและตระกูลชินวัตรยังไม่แยกออกจากกันเพราะทุกคนสามารถเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยได้
พร้อมกันนี้ยังปฏิเสธตอบกรณีมีรายชื่อตนเองบินพบทักษิณที่ประเทศฮ่องกงว่าเป็นการนำเรื่องไปเชื่อมโยงกันเท่านั้น และย้ำว่าไม่พร้อมที่จะร่วมงานการเมืองหากประยุทธ์อยู่ในสนามการเมือง เพราะจุดยื่นของพรรคเพื่อไทยชัดเจน ที่ไม่ยอมรับกับกลุ่มคนที่ไม่ได้ส่งเสริมความเป็นประชาธิปไตยโดยเฉพาะการปฏิวัติ รัฐประหาร

ส่วนที่มีคนจับตามองที่นายพานทองแท้ โดนคดีความทำให้การเมืองในพรรคเปลี่ยนไป ย้ำว่าไม่เกี่ยวกัน เพราะทั้งสามคนแสดงเจตนารมณ์ชัดเจนในการส่งเสริมประชาธิปไตยและทุกคนมีสิทธิไม่ว่าจังพนามสกุลอะไรดังนั้นจึงมีสิทธิในการแสดงออก ว่าจะสนับสนุนประชาธิปไตยหรือเผด็จการซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก