‘บิ๊กป้อม’สั่งกวาดล้างอาชญากรรมข้ามชาติ พร้อมวางมาตรการเข้ม ‘โฆษก กอ.รมน.’ เร่งบูรณาแผน – จับกุมนักท่องเที่ยวผิดกฎหมาย วอน ปชช.แจ้งเบาะแส ผ่าน 1374

เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.)กล่าวถึง ความห่วงใยของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำชับเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน ทั้งทหารและตำรวจและฝ่ายปกครอง ได้ร่วมกันเร่งรัดการกวาดล้างการก่ออาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งที่ผ่านมาได้มีเรื่องต่างๆเกิดขึ้น สร้างความไม่สบายใจให้กับนักท่องเที่ยว ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตรได้มีการวางแผนและสั่งการให้หน่วยปฏิบัติงานต่างๆควบคุมดูแลอย่างจริงจังโดยเฉพาะการกวดขันการใช้ข้อมูลข่าวสารทางอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆตามบริเวณชายแดนและท่าอากาศยานให้มีข้อมูลที่ตรงกัน เพื่อป้องกันนักท่องเที่ยวที่แฝงตัวเข้ามาในคราบของการประกอบธุรกิจมืด รวมถึงนักท่องเที่ยวที่หมดอายุในการที่จะให้เข้ามาเป็นนักท่องเที่ยวหรือนักท่องเที่ยว อยู่ในราชอาณาจักรไทยผิดกฎหมาย

พล.ต.ธนาธิป กล่าวว่า ทาง กอ.รมน. โดย พล.อ.ธีรวัฒน์ บุณยะวัฒน์ เลขา กอ.รมน.ได้กำชับและสั่งการเจ้าหน้าที่ต่างๆโดยเฉพาะฝ่ายข่าวของ กอ.รมน.และ กอ.รมน. ภาคและจังหวัดในพื้นที่ท่องเที่ยวรวมถึงศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 3 ที่รับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรงก็ผิดกำกับดูแลและบูรณาการกับหน่วยงานความมั่นคงมีพื้นที่ทั้งทหารและตำรวจอย่างเป็นรูปประธรรมที่ชัดเจน เนื่องจากที่ผ่านมาการก่อเหตุอาชญากรรมข้ามชาติจนถึงปัจจุบันนี้ทราบว่าไม่ได้ทำในเฉพาะพื้นที่กรุงเทพฯแต่ขยายผลไปยังพื้นที่ใหญ่ๆโดยเฉพาะพื้นที่ท่องเที่ยวเพื่อป้องกันให้เกิดความปลอดภัยกับนักท่องเที่ยว และประชาชนของหน่วยงานต่างๆการดำเนินการการเร่งรัดในการที่จะเกิดความปลอดภัยมีพื้นที่มากที่สุด อย่างไรก็ตามกรณีขอขอบคุณประชาชนและมวลชนรวมถึงผู้ประกอบกิจการโรงแรมและที่พักอาศัยให้กับนักท่องเที่ยวที่ให้ข้อมูล จนผสามารถจับกุมนักท่องเที่ยวผิดกฎหมายได้ประมาณ 59 คนในพื้นที่ซอยนานา กทม.ซึ่งเป็นชาวตะวันออกกลางเป็นส่วนใหญ่ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งรัดบูรณาการร่วมกันเพื่อเกิดความสันติสุขในพื้นที่ โดยหากว่าพบเห็นสิ่งผิดปกติหรือแปลกปลอม หรือคนที่เข้ามาในร้านค้าในที่พักต่างๆสามารถแจ้งสายด่วน 1374 กองกำลังจะมีเจ้าหน้าที่คอยรับข้อมูลเพื่อแจ้งให้กับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ควบคุมได้

พล.ต.ธนาธิป กล่าวว่า ส่วนระยะเวลา 1 เดือนจะสามารถดำเนินการจับกุมนักท่องเที่ยวผิดกฎหมายให้หมดไปหรือไม่นั้น ในขั้นต้นเราสามารถที่จะบูรณาการงานได้เพราะที่ผ่านมาอาจจะมีการทำงานและบูรณาการไม่ครอบคลุมในทุกๆองค์กรซึ่ง พล.อ.ประวิตร ย้ำว่าภายในเมื่อ 1 เดือนจะต้องเห็นผลและคิดว่าน่าจะให้เกิดประสิทธิภาพอย่างสูงสุดเพราะได้สั่งการให้ทุกคนได้ปฏิบัติงานอย่างจริงจังและใช้กฎหมายเข้าบังคับใช้อย่างเคร่งครัดซึ่งน่าจะเห็นภาพที่ดีขึ้น สำหรับเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนรู้เห็นนั้น มีโทษทั้งทางวินัยและอาญาหากใครละเมิดกฎหมายพระราชบัญญัติคนเข้าเมืองปี พ.ศ .2522 ผู้นำจะต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว และจะลงโทษให้เป็นรูปประธรรมคือลงโทษเพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศอย่างสูงสุดให้ความรักมีความมั่นใจต่อนักท่องเที่ยวที่มาจากต่างประเทศและสร้างความเข้าใจกับประชาชนของเราเอง