เผยประยุทธ์ย้ำนายกฯ ญี่ปุ่น เลือกตั้งกุมภาพันธ์ 2562

นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เดินทางไปประเทศญี่ปุ่น เพื่อร่วมประชุมผู้นำลุ่มแม่น้ำโขง และญี่ปุ่น ว่า ระหว่างที่ พล.อ.ประยุทธ์หารือกับนายชินโสะ อาเบะ นายกฯ ญี่ปุ่น นายอาเบะไม่ได้มีการสอบถามเกี่ยวกับการเลือกตั้งของไทย แต่ พล.อ.ประยุทธ์ได้ชี้แจงไปว่าประเทศไทยจะมีการเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 และทุกอย่างจะเดินหน้าไปตามยุทธศาสตร์ชาติ พร้อมชี้แจงด้วยว่า ในอดีตประเทศไทยไม่เคยมียุทธศาสตร์มาก่อน และว่า เป็นเรื่องปกติที่นายกฯ จะต้องเล่าให้ต่างประเทศรู้ว่าในบ้านเราเกิดอะไรขึ้น ต่างชาติเข้าใจเหตุผลที่เราต้องเลื่อนการเลือกตั้งแต่ละครั้ง โดยรับทราบทุกขั้นตอน ไม่ได้ติดใจถึงการเลื่อน ที่ปรากฏเป็นข่าวว่าต่างประเทศเฝ้าจับตาการเลือกตั้งในไทยนั้น ไม่ใช่ความจริง เพราะในแต่ละประเทศก็มีเรื่องอื่นที่ต้องสนใจมากกว่าเรื่องนี้ ตราบใดที่ประเทศไทยยังดำเนินไปอย่างสงบสุข มีความสงบเรียบร้อย ต่างประเทศก็ยินดี เขาจะถามเพียงเพื่อรับรู้ เพื่อจะได้ตัดสินใจในการดำเนินธุรกิจ

ผู้สื่อข่าวถามว่า นักลงทุนญี่ปุ่นมั่นใจต่อผลการเลือกตั้งของไทยมากน้อยแค่ไหน นายดอนกล่าวว่า นักลงทุนบางส่วนรอผลการเลือกตั้งก่อนจึงจะตัดสินใจลงทุน ขณะที่บางส่วนตัดสินใจที่จะลงทุนแล้ว และบางส่วนยังเห็นว่าหากการเลือกตั้งนำมาซึ่งความไร้เสถียรภาพ ประเทศไม่สงบเรียบร้อย ก็จะตัดสินใจย้ายฐานการลงทุน

อัยการส่งตัวพานทองแท้ฟ้องศาล เอมชี้สู้คดีไม่ห่วง-แต่เรื่องแค้นยากควบคุม

จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สอบสวนคดีการฟอกเงินที่เกี่ยวกับการอนุมัติสินเชื่อโดยมิชอบของกลุ่มผู้บริหารธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ให้กับกลุ่มธุรกิจเครือข่ายกฤษฎามหานคร ที่มีรายชื่อ “โอ๊ค” นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และพวกรวม 4 คน อยู่ในกลุ่มผู้ร่วมกระทำผิด เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม อัยการคดีพิเศษมีคำสั่งให้นายพานทองแท้ ชินวัตร ไปพบเพื่อจะนำตัวไปส่งฟ้องที่ศาลอาญาคดีทุจริตในคดีอาญาฟอกเงิน ในเวลา 10.00 น. โดยมีน้องสาวคือ นางพินทองทา คุณากรวงศ์ และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร รวมทั้งผู้สนับสนุน มาให้กำลังใจจำนวนมาก รวมทั้งด้านคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทยด้วย

ทั้งนี้ พินทองทา คุณากรวงศ์ โพสต์อินสตาแกรมให้กำลังใจพี่ชาย โอ๊ค-พานทองแท้ ชินวัตร ว่า “ตลอดเวลากว่า 1 ปีที่ได้เข้ามาร่วมประชุมทุกสัปดาห์กับคดีของพี่โอ๊คนั้น ยอมรับเลยมันเป็นเรื่องที่ยาก ยากทั้งภาษากฎหมาย ภาษาการเมือง และเกมการเมือง ซึ่งเอมไม่ถนัดทั้ง 2… แต่อยากจะเป็นส่วนหนึ่งที่อยู่ข้างๆ พี่โอ๊คและผ่านมันไปด้วยกัน… วันนี้แล้วสินะ… ครอบครัวเราผ่านอะไรกันมาเยอะ ถูกการเมืองเล่นมาเยอะ แต่ก็คิดมาเสมอว่าเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ จนกระทั่งมาเป็นเรื่องพี่โอ๊ค… มาถึงรุ่นพวกเราแล้วเหรอเนี่ย! แต่ในเมื่อจะทำกันขนาดนี้… เราก็คงจะไม่นั่งนิ่งเฉยให้ถูกรังแก… อย่างไรก็ตาม… เอมขอขอบพระคุณผู้ใหญ่ท่านที่ปรึกษาทุกท่าน และทีมงานกฎหมาย ที่ร่วมกันคิดและหารืออย่างสุดความสามารถ จนสุดท้ายได้ข้อสรุปร่วมกันว่า “ถ้าสู้ตามเนื้อกฎหมายยังไงเราก็ชนะ!! แต่เรื่องของธงทางการเมือง ความแค้นส่วนตัวของคนบางคน อันนี้อยู่เหนือการควบคุมและคาดเดาจริงๆ” ท้ายที่สุดเอมขอชื่นชมในความเข้มแข็ง ยืนหยัดและเลือดนักสู้ในตัวพี่โอ๊ค… เราจะอยู่เคียงข้างกันนะ! บอกแล้วโชคดีของเราที่พ่อกับแม่ให้เรามีพี่น้องทั้ง 3 คนไว้เคียงข้างกัน สู้!!!”

ขณะที่ น.ส.แพทองธารโพสต์ผ่านอินสตาแกรมอีกว่า “ลูกทักษิณ ไม่เคยได้รับอะไรเหมือนคนอื่นเค้าหรอก “ลูกทักษิณ” ได้รับอะไรแรงกว่าคนอื่นเสมอ”

ประวิตรลั่น คสช.ไม่มีแผน ยุบพรรคเพื่อไทย

เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ พรรคเพื่อไทยเชื่อว่าจะถูกยุบพรรค ว่าไม่ทราบ ตนเป็นเพียงส่วนหนึ่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เท่านั้น ส่วนที่นายทักษิณ ชินวัตร แสดงตัวอยู่เบื้องหลังของพรรคเพื่อไทยนั้น หากทำผิดเรื่องการเมืองก็เป็นเรื่องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หากทำผิดกฎหมายก็เป็นเรื่องของเขา ยืนยันว่า คสช.ไม่ได้มีแผนที่จะยุบพรรคเพื่อไทย คสช.จะไปรู้ได้อย่างไร ถ้าจะถูกยุบพรรคก็ต้องเป็น กกต. จะมาโทษ คสช.ได้อย่างไร และตอนนี้ คสช.ยังไม่ได้ประชุมอะไรเลย

“เขาทำผิดหรือไม่ ทำไมจะต้องกลัว ถ้าไม่ทำผิด พรรคการเมืองอื่นๆ ไม่เห็นกลัว เพราะเขาไม่ทำผิด” พล.อ.ประวิตรกล่าว

“นักวิชาการ-เครือข่าย” จับมือ ผุดกลุ่มชูเลือกตั้ง “ฟรี-แฟร์”

เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง, กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง, โครงการอินเตอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw), สหพันธ์นักเรียนนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทยไทย, กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย, ตัวแทนเครือข่ายแรงงาน, สมัชชาคนจน และเครือข่ายต่างๆ แถลงเปิดตัวเครือข่ายประชาชนที่ต้องการการเลือกตั้งที่เสรี เป็นธรรม และมีผลในทางปฏิบัติ (FFFE-Free, Fair & Fruitful Election) เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม ที่ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ นายอนุสรณ์ อุณโณ คณบดีคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา ม.ธรรมศาสตร์ แกนนำเครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง กล่าวว่า ค่อนข้างชัดเจนว่าประเทศไทยจะมีการเลือกตั้งทั่วไป อย่างน้อยที่สุดวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นมีนัยยะทางสังคม ไม่ได้เป็นเพียงการขับเคี่ยวหรือแข่งขันของพรรคการเมือง แต่เป็นการเดิมพันครั้งสำคัญของสังคมในการใช้การเลือกตั้งเป็นกลไกสำคัญของระบอบประชาธิปไตยในการพาประเทศกลับสู่สภาวะปกติ และใช้เป็นกลไกสำคัญในการคลี่คลายปัญหาความขัดแย้งที่เราเผชิญมาก่อนหน้านั้น ดังนั้น เพื่อทำให้การเลือกตั้งสามารถทำหน้าที่ตามที่คาดหวัง คิดว่าจะต้องเกิดขึ้นภายใต้ปัจจัย 3 ประการ ประการที่ 1 ต้องเป็นการเลือกตั้งที่เสรี ประการที่ 2 ต้องมีความเป็นธรรม ประการที่ 3 การมีผลในทางปฏิบัติ ไม่ใช่ถูกครหาว่าเป็นเพียงแค่พิธีกรรม

ดังนั้น พวกตนจึงร่วมกันตั้งกลุ่มว่า เครือข่ายประชาชนที่ต้องการการเลือกตั้งที่เสรี เป็นธรรม และมีผลในทางปฏิบัติ (FFFE) เพื่อเคลื่อนไหวและจัดกิจกรรมให้เกิดการเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรม