เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. กล่าวว่าหลังครม. เห็นชอบ ร่าง พ.ร.ฎ.ให้มีการเลือก ส.ว. รัฐบาลก็จะดำเนินการนำขึ้นทูลเกล้าฯ ในส่วนของ กกต.ก็จะดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ ในการสรรหา ส.ว. โดยจะเริ่มเปิดให้ลงทะเบียนองค์กรที่จะเสนอชื่อในวันที่ 15- 24 ตุลาคมนี้ จากนั้นจะเป็นการเปิดรับสมัคร 26- 30 พฤศจิกายน และการเลือกในระดับอำเภอในช่วง 16 ธันวาคม ระดับจังหวัด 22 ธันวาคม และ ระดับประเทศ 27 ธันวาคม ซึ่งคาดว่าจะมี พ.ร.ฎ.เลือก ส.ว.ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน เบื้องต้นที่จะมีการเลือกตั้ง ส.ว.ในดับต่างๆ ช่วงเดือนธันวาคม ก็ได้รับการตอบรับจากกระทรวงมหาดไทย ที่ฝ่ายปกครองเคยเป็นห่วงว่าการดำเนินการในช่วงนั้นจะตรงกับเทศกาลปีใหม่

พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องการเลือกส.ว.ทางกกต. ก็ได้เน้นย้ำว่าอยากให้ทางสำนักงานฯ ดำเนินการให้เสร็จเรียบร้อยโดยเร็ว เพื่อจะได้จัดเตรียมในเรื่องการเลือกตั้ง ส.ส. ที่จะใกล้กัน เพราะการเลือกตั้ง ส.ส.เป็นระบบใหม่และเชื่อว่าในการเสนอชื่อบุคคลเข้ารับการสรรหาในนามองค์กร คาดว่าจะมีการเสนอชื่อเป็นจำนวนมาก เพราะดูจากความคึกคักขององค์กรที่มาลงทะเบียน อย่างไรก็ตามไม่ห่วงเรื่องการฮั้วสมัคร เพราะขั้นตอนการเลือกมีหลายระดับ และในแต่ละระดับผู้สมัครจะรู้คะแนนและสามารถร้องเรียนได้ หากพบความผิดปกติ ซึ่งถ้าพิสูจน์แล้วว่ามีการฮั้วกันจะมีความผิดโทษแรง มีสิทธิ์โดนใบแดงแบบ ส.ส.

พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวอีกว่า งบประมาณ 600 ล้านบาทที่ ครม.เห็นชอบในหลักการเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ว่าก่อนหน้านี้ กกต. ได้รับอนุมัติงบฯ ในการจัดการเลือกตั้ง ส.ส.มากว่า 4,000 ล้าน แต่ด้วยกระบวนการจัดการเลือกตั้งเป็นรูปแบบใหม่ มีค่าใช้จ่ายมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องค่าตอบแทนให้ผู้แจ้งเบาะแส สินรางวัลนำจับ การกำหนดให้ กกต.เป็นผู้จัดหาสถานที่สำหรับปิดป้ายหาเสียงของผู้สมัคร ทำให้งบที่ไดรับยังไม่เพียงพอ จึงได้มีการขออนุมัติเพิ่ม ซึ่งจากนี้ทางสำนักงานก็จะมาจัดทำแผนการใช้จ่าย และจะเสนอไปให้ ครม.พิจารณาในเร็วๆนี้ เพราะจำเป็นต้องนำเงินมาดำเนินการ เบื้องต้นเราได้พยายามที่จะปรับลดลงบฯ มาแล้ว โดยก่อนหน้านี้มีขออนุมัติที่กว่า 5,000ล้าน และบีบลงมาเหลือ 4,000 ล้าน ในส่วนของงบฯ การเลือก ส.ว.เพียงพอแล้ว จึงไม่มีการขอเพิ่ม