รองเลขาฯอีอีซี ลงพื้นที่โยธะกา แจงยังไม่มีแผนการใช้พื้นที่ในปัจจุบัน

วันที่ 10 ตุลาคม 2561 เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. คุณทัศนีย์ เกียรติภัทราภรณ์ รองเลขาธิการ EEC สายงานพัฒนาพื้นที่และชุมชน พร้อมด้วย พ.ท.ขวัญชัย พงษ์อร่าม ผบ.กองพันที่ 1 กองพลทหารราบที่ 11 ค่ายพระนั่งเกล้า และนายประเทือง อยู่เกษม นายอำเภอบางน้ำเปรี้ยว ลงพื้นที่ประชุมรับฟังความเดือดร้อนของชาวบ้านกลุ่มโยธะการักษ์ถิ่น ณ ที่ทำการผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 11 ต.โยธะกา อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา

สืบเนื่องจากเมื่อกลางปี 2557 ชาวบ้าน ต.โยธะกาได้รับหนังสือจากสำนักงานธนารักษ์พื้นที่ฉะเชิงเทรา แจ้งยกเลิกสัญญาเช่าและการเก็บค่าตอบแทนการใช้ประโยชน์ที่ดินราชพัสดุ และส่งมอบที่ดินคืนทหารเรือ ด้วยเหตุผลว่า กองทัพเรือมีแผนการใช้ประโยชน์ที่ดินบริเวณศูนย์เกษตรกรรมทหารเรือโยธะกา เพื่อใช้ประโยชน์ในราชการทหาร

หลังจากปี 2557 เป็นต้นมา สำนักงานธนารักษ์เลิกเก็บค่าเช่าที่ดินจากชาวบ้าน แต่ชาวบ้านยังคงใช้ที่ดินทำนาต่อไป ไม่มีใครส่งมอบที่ดินหรือย้ายออกไปปลายปี 2560 ชาวบ้านได้รับหนังสืออีกครั้งจากกองทัพเรือ ขอให้ส่งมอบคืนที่ดินให้แก่กองทัพเรือ ภายใน 7 วัน โดยให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง ขนย้ายทรัยพ์สิน และบริวารออกไปจากที่ดิน พร้อมกับทำหนังสือส่งมอบที่ดิน พร้อมทั้งระบุว่าหากยังเพิกเฉยทางราชการมีความจำเป็นที่ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย หลังจากนั้นชาวบ้านได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังหลายหน่วยงาน เพื่อร้องเรียนและขอสิทธิในการใช้ที่ดินต่อไป

ต่อมาได้มีการลงข่าวคำให้สัมภาษณ์ของอธิบดีกรมธนารักษ์ ในข่าวประชาชาติธุรกิจออนไลน์ เมื่อวันที่ 4 มี.ค. 2561 ระบุว่า กรมธนารักษ์ได้จัดหาที่ราชพัสดุสนับสนุนโครงการ EEC ใน 3 จังหวัด คือ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง กว่า 11,000 ไร่ ในส่วนของฉะเชิงเทรานั้น เป็นที่ของกองทัพเรือที่ส่งคืนให้กรมธนารักษ์ อยู่ใน อ.บางน้ำเปรี้ยว พื้นที่ประมาณ 4,000 ไร่เศษ อยู่บริเวณศูนย์เกษตรกรรมทหารเรือ ที่ ต.โยธะกา ซึ่งได้ส่งมอบให้อีอีซีไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนจะนำไปพัฒนาเป็นอะไรขึ้นกับ EEC จะกำหนด หลังจากนั้นได้มีกระแสข่าวหลายสำนักได้รายงานว่าอาจมีกลุ่มทุนบางกลุ่มเข้ามาพัฒนาพื้นที่เป็นเมืองใหม่

จึงทำให้ชาวบ้านในพื้นที่เกิดความกังวลต่อสถานการณ์การขอคืนพื้นที่ดังกล่าวซึ่งมี EEC เป็นหนึ่งในหน่วยงานที่มีอำนาจตามกฎหมาย จึงได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยัง สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก และทางสำนักงานฯจึงได้มอบหมายให้ น. คุณทัศนีย์ เกียรติภัทราภรณ์ รองเลขาธิการ EEC สายงานพัฒนาพื้นที่และชุมชน มาลงพื้นที่ชี้แจงกับชาวบ้านในวันนี้

สำหรับบรรยากาศในที่ประชุม นายธีรพล อุทัยพันธุ์ กำนันตำบลโยธะกา ในฐานะประธานกลุ่มโยธะการักษ์ถิ่น ได้กล่าวว่าตนได้ส่งหนังสือร้องเรียนไปยัง EEC ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2561 แต่ยังไม่ได้หนังสือตอบกลับมา โดยมีความกังวลและความสงสัยของชาวบ้านจำนวน 6 ข้อได้แก่

  1. จํานวนเนื้อที่ดินที่ต้องการใช้ประโยชน์
  2. แผนที่ของแปลงที่ EEC ต้องการใช้ประโยชน์
  3. วัตถุประสงค์การใช้ประโยชน์ที่ดินของ EEC
  4. เหตุผลความจําเป็นของ EEC ในการใช้ประโยชน์ที่ดิน
  5. ผลประโยชน์ที่จะตกแก่ราษฎรในพื้นที่
  6. EEC มีมาตรการชดเชย เยียวยา ให้กับราษฎรที่ไร้ที่อยู่อาศัยและที่ดินทํากินดังกล่าว

ทางคุณทัศนีย์ เกียรติภัทราภรณ์ รองเลขาธิการ EEC ได้กล่าวตอบว่า เมื่อเดือนมีนาคม เนื่องจากพรบ.เขตพัฒนาภาคตะวันออก (EEC) ยังไม่มีผลบังคับใช้ ทางสำนักงานจึงยังไม่สามารถตอบคำถามชาวบ้านอย่างเป็นทางการได้ในช่วงนั้น แต่อย่างไรก็ดีในปัจจุบัน ทางสำนักงาน EEC ได้ทราบเรื่องร้องเรียนและความกังวลของชาวบ้านแล้ว และขอเรียนให้ทราบว่าในปัจจุบัน EEC ยังไม่มีแผนการใช้พื้นที่ต.โยธะกา พร้อมทั้งบอกว่าเป็นเรื่องที่ชาวบ้านกับทหารเรือต้องไปตกลงกัน

ในประเด็นนี้ พ.ท.ขวัญชัย พงษ์อร่าม ผบ.กองพันที่ 1 กองพลทหารราบที่ 11 ค่ายพระนั่งเกล้า ได้แจ้งต่อชาวบ้านว่าทางกองพลทหารราบที่ 11 โดยพลตรีวรยุทธ แก้วพิบูลย์พันธุ์ได้ประสานกับทางกองทัพเรือให้ส่งตัวแทนลงมาพูดคุยกับชาวบ้านในวันที่ 24 ตุลาคม นี้ ส่วนสถานที่จะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง

ช่วงท้ายนางสาวพรพณา ก๋วยเจริญ ที่ปรึกษากลุ่มโยธะกา ได้สอบถามรองเลขาธิการ EEC เพิ่มเติมว่าในประเด็นผังเมืองตำโยธะกาที่ถูกเปลี่ยนเป็นสีขาว (พื้นที่ความมั่นคง) และประเด็นเนื้อหาตามกฎหมาย EEC มาตรา 53 ซึ่งระบุให้อำนาจ EEC ในการใช้ที่ราชพัสดุทุกแปลงในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคตะวันออก (ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง) เพราะชาวบ้านมีความกังวลต่อสิทธิการใช้ที่ดินในระยะยาว

ซึ่งรองเลขาธิการ EEC ได้ชี้แจงว่า การพัฒนาพื้นที่ของ EEC ต้องรับฟังความเห็นของชาวบ้านในพื้นที่อยู่แล้ว อย่างไรก็ดีความกังวลของชาวบ้านที่ถูกถามในวันนี้ ทางสำนักงาน EEC จะทำหนังสือแจ้งชาวบ้านเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง