‘วัฒนา’ ยกยิ่งลักษณ์จิตใจสูง ให้อภัยคดี ว.5 โฟร์ซีซั่นส์ ไม่แคร์ลบโพสต์ เหมือนใส่บาตรแล้วก็จบ

แฟ้มภาพ

เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม นายวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะยอมถอนฎีกาให้อดีต 3 ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้แก่ นายศิริโชค โสภา นายเทพไท เสนพงศ์ และนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต ในคดีหมิ่นประมาทที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ว่า เมื่ออีกฝ่ายรู้ตัวว่าผิดแล้วขอโทษ น.ส.ยิ่งลักษณ์จึงให้อภัย ที่แล้วมามีหลายกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่เคยดำเนินคดีหมิ่นประมาท เพราะถือว่าทุกคนสามารถวิจารณ์การทำงานของผู้นำประเทศได้ แม้บางครั้งจะเป็นการวิจารณ์ให้เกิดความเสียหาย ไม่ได้เกี่ยวกับหน้าที่การงานก็ตาม ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ดำเนินคดีหมิ่นประมาทโฟร์ซีซั่นส์ เพราะไม่เกี่ยวข้องกับการงาน ซ้ำยังก่อให้เกิดความเสื่อมเสียทั้งในฐานะภริยาและแม่ของลูก จึงได้ใช้สิทธิทางศาล ปกป้องเกียรติยศและศักดิ์ศรีของตัวเอง จากนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์เห็นว่าไม่ถูกต้องที่ศาลชั้นต้นสั่งจำคุกโดยรอลงอาญา เมื่อเทียบเคียงกับคดีอื่นๆ เช่นการหมิ่นประมาทศาล หรือที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. หมิ่นประมาทนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ แต่เมื่อทั้ง 3 คน รู้ตัวว่าผิดแล้วขออภัย จึงได้ให้อภัย เพราะไม่มีความแค้นเป็นการส่วนตัว

นายวัฒนากล่าวว่า เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ของนักการเมืองว่าในอนาคตควรต่อสู้กันอย่างสร้างสรรค์ ไม่ควรสาดโคลน เอาเรื่องสกปรกมากล่าวหากัน เพื่อที่จะได้นำสมองและพลังงานไปคิดอย่างสร้างสรรค์ ดังจะเห็นว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่เคยตอบโต้ทางการเมืองตลอดเวลาการเป็นนายกฯ และการที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ให้อภัยทั้ง 3 คน ไม่เกี่ยวกับการส่งสัญญาณทางการเมือง ไม่ได้หมายความว่าพรรคเพื่อไทย (พท.) จะเกี้ยเซี้ยกับพรรค ปชป.ในอนาคต เพราะการให้อภัยของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นเรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวข้องกับการบริการงานของรัฐบาลในอดีต

“แน่นอนว่าก่อนที่ทั้ง 3 คนจะออกมาขอโทษหรือ น.ส.ยิ่งลักษณ์จะให้อภัย จะต้องมีการพูดคุยกันทั้ง 2 ฝ่ายก่อน เป็นไปไม่ได้ที่อยู่ดีๆ จะออกมาขอโทษ โดยต้องมีการประสานงานกันอยู่แล้ว และทาบทามว่าจะให้อภัยไหม จนเมื่อทราบว่าถ้าขอโทษแล้วจะให้อภัย จึงมีการขอโทษกันออกมา การให้อภัยคือธรรมะอย่างหนึ่ง แสดงให้เห็นถึงความมีเมตตา เขาทุกข์ รู้ตัวแล้ว จึงมาขอความเมตตา น.ส.ยิ่งลักษณ์จึงให้อภัย เป็นธรรมะขั้นสูง เป็นหนึ่งในพรหมวิหาร 4 แสดงให้เห็นถึงความมีน้ำใจนักกีฬาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เมื่ออีกฝ่ายรู้ตัวว่าแพ้แล้วมาขอโทษ ก็ไม่จำเป็นต้องเอาเป็นเอาตาย” นายวัฒนากล่าว

นายวัฒนากล่าวว่า ส่วนที่มีการลบโพสต์ขอโทษออกในเวลาไม่นานนั้น ถือว่าไม่เกี่ยวข้องกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เพราะเหมือนกับว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ทำบุญ ซึ่งผลจากบุญจะทำให้จิตใจอิ่มเอิบ โดยไม่จำเป็นต้องไปสนใจว่า หลังจากทำบุญเช่นการใส่บาตรแล้ว พระสงฆ์จะนำข้าวไปฉันเองหรือให้ลูกศิษย์วัดกิน ดังนั้น เมื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์รับรู้การขอโทษและให้อภัยแล้ว ทุกอย่างก็จบ เพราะการขอโทษไม่จำเป็นต้องขอโทษไปทั้งชีวิต ทั้ง 3 คน จะจริงใจหรือไม่ไม่ทราบ แต่เมื่อเอ่ยปากขอโทษแล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็ได้ให้อภัยแล้ว สาธารณะจะมองเรื่องนี้อย่างไร ส่วนตัวไม่ขอวิจารณ์