เผยแพร่ |
---|
ภาพแห่งการเลือกตั้ง ภาพแห่งพรรคการเมือง ภาพแห่งการตั้งแนวรบเพื่อเข้าชิงชัยในทางการเมืองเริ่มเด่นชัด
แนวรบ 1 เป็นแนวรบแห่ง “พลัง”
นั่นก็เห็นได้จาก พรรคพลังประชารัฐ พรรครวมพลังประชา ชาติไทย พรรคพลังชาติไทย พรรคพลังธรรมใหม่ และรวมถึงพรรคประชาชนปฏิรูป
แนวรบ 1 เป็นแนวรบแห่ง “เพื่อ”
รากฐานสำคัญ คือ พรรคเพื่อไทย ประสานเข้ากับ พรรคเพื่อธรรม และกำลังจะเกิด พรรคเพื่อชาติ ขึ้นมาอีกพรรคหนึ่ง
นี่คือ แนวรบ “หลัก” ที่จะต้องสัประยุทธ์อย่างเข้มข้น
เป็นผลสะเทือนอันเนื่องจากรัฐประหารเดือนกันยายน 2549 ต่อเนื่องมายังรัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557
การก่อรูปไม่ว่าของแนวรบ “พลัง” ไม่ว่าของแนวรบ “เพื่อ”เป็นการอนุวัติไปตามกฎกติกาอันบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 เป็นสำคัญ
นี่คือสภาพที่แปรเปลี่ยนไปจากรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550
ตอนนั้นพรรคพลังประชาชนอาจเป็นเพียงแนบรบเดียวที่จะต้องต่อกรกับ”แผนบันได 4 ขั้น”ของคมช.อันประกอบขึ้นโดย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อแผ่นดิน พรรคมัชฌิมาธิปไตย
แต่แล้วผลการเลือกตั้งเมื่อเดือนธันวาคม 2550 แผนบันได 4 ขั้นของคมช.ก็พังครืนพลันที่พรรคพลังประชาชนได้ชัยชนะเหนือกว่าทุกพรรคการเมือง
เกิดสภาวะเรรวนปั่นป่วน
รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 เกิดขึ้นเพื่ออุดรูรั่วจากรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540 และรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 จึงนำไปสู่การเปิดแนวรบ 2 แนวขึ้นโดยอัตโนมัติ
ไม่ว่าคสช.ล้วนมีการปรับตัว ไม่ว่าเหยื่อของรัฐประหารล้วนมีการปรับตัว
เกิดแนวรบ “พลัง” ปะทะเข้ากับแนวรบ “เพื่อ”
หากมองสภาพการณ์ทางการเมืองบนพื้นฐานแห่ง “สามก๊ก”ก็จะเป็นการต่อสู้ระหว่าง แนวรบพลัง กับ แนวรบเพื่อ
อีก 1 ก๊กที่เหลือดำเนินไปใน 2 แบบ
แบบหนึ่ง เป็นผู้ที่เป็นพันธมิตรในแนวร่วม หากไม่แนวรบพลังก็เป็นแนวรบเพื่อ และแบบหนึ่งคือกลุ่มที่รอร่วมเป็นรัฐบาล
ทั้งหมดนี้คือสีสันการเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์ 2562