“ประยุทธ์” ท้า “อนาคตใหม่” พูดแข่งเรื่องอนาคตประเทศ แต่ปิดปากสนิทเรื่องอนาคตการเมือง

นายกฯ สั่งผู้เข้าร่วมโยกแก้เบื่อ หลังร่ายยาวเกือบ2 ชม. แจง 3 จังหวัดภาคใต้ ไม่ได้แย่ทุกพื้นที่ ขอให้เข้าใจ ย้ำต้องใช้การเจรจาเพื่อสันติสุขไม่ใช่สันติภาพ บอกคนอยากเป็นนายกฯ แต่ไม่ทำยุทธศาสตร์ชาติ ท้า”อนาคตใหม่” พูดแข่งกัน ลั่นยุคนี้-ยุคไหน บ้านเมืองต้องสงบ

เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 27 กันยายน ที่ห้องแกรนด์ไดมอนด์ บอลรูม อิมแพค เมืองทองธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)เปิดการประชุมประจำปี 61 ของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และปาฐกถาพิเศษเรื่อง”ยุทธศาสตร์ชาติ อนาคตไทย อนาคตเรา”

นายกฯ กล่าวช่วงหนึ่งว่า เรื่องการแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ วันนี้อย่าบอกว่า 3 จังหวัด 4 อำเภอมันแย่ เพราะแย่แค่บางตำบลและบางหมู่บ้านเท่านั้นเอง ไม่ได้แย่ทุกที่ หากพูดอย่างนี้ความเท่าเทียมก็ไม่เกิด ขายของก็ขายไม่ได้ เพราะไม่มีคนไปลงทุน บางพื้นที่ไม่ได้เป็นอย่างนั้น ขอให้ฟังคนในพื้นที่เขาบ้าง วันนี้มีเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย แต่อย่ามองว่าเขาเป็นผู้ก่อการร้าย ถ้ามองว่าเป็นผู้ก่อการร้ายก็จะกลายเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะคงไม่มีใครออกมายอมรับว่าเป็นผู้ก่อการร้าย ถึงมีพอเกิดเหตุความไม่สงบก็มาบอกว่าไม่ได้ทำ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องการพูดคุยสันติสุขเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ชาติ การแก้ไขปัญหาภาคใต้ ต้องใช้การพูดคุยเพื่อสันติสุขไม่ใช่การพูดคุยสันติภาพ ไม่ใช่การเจรจาเพื่อสันติภาพเพราะไม่ได้มีการรบกัน ถ้ารบกันวันนี้ทหาร ตำรวจ คงลงไปในพื้นและมีการกวาดล้างทุกตำบลทุกตำบลหมู่บ้านไปหมดแล้ว แต่เราไม่ได้ทำแบบนั้น แต่หากมีการชี้เป้าหรือมีคนแจ้งเข้ามาเราก็ไป มีการปะทะกันต่อหน้าเราก็ไป เจ้าหน้าที่ไม่ได้เข้าไปทำอะไรเลยทั้งที่มีกฎอัยการศึกและกฎหมายเยอะแยะ เขาได้ไปห้ามการจราจรไหม เพราะถ้าไปห้ามมากๆ คนที่เขาปลอดภัยก็ออกมาโวย เพราะเขาปลอดภัยอยู่แล้ว เขาไม่รู้ แต่จะให้มีการเปิดพื้นที่มากๆ ก็จะเป็นช่องทางให้ผู้ก่อการร้ายหาที่หลบซ่อนได้มากขึ้น คนเหล่านี้ทำผิดกฎหมายมีคดีอาญาฆ่าคนตายและใช้ความรุนแรงรับไม่ได้

นายกฯ กล่าวว่า การพูดคุยไม่ใช่การเจรจาสันติภาพ ไม่ได้ยึดพื้นที่ อำนาจรัฐต้องไปได้ทุกตารางนิ้ว ใครก็ไปได้ นายกฯ ก็ไปได้ แต่จำเป็นที่ทหารจะเพิ่มเข้าไปในช่วงนี้ เพื่อดูแลประชาชนส่วนใหญ่และต้องจำกัดพื้นที่ให้ได้วันนี้สิ่งที่เราทำคือการควบคุมพื้นที่ ไม่ให้สิ่งนี้ขยายออกไปข้างนอกตรงนี้คือความสำเร็จขั้นที่แรก ถ้าจะให้ต้องเลิกมันทำได้หรือไม่ เพราะบางคนเป็นคนไทย เชื้อชาติไทย สัญชาติไทยไม่ใช่บ้างก็มั่วกันไปหมด ก็เหมือนกับอาชญากรรมในทุกจังหวัดที่มีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขอให้เข้าใจกันใหม่ อย่าพูดแต่ว่าแย่ คนในพื้นที่เขาไม่ได้เดือดร้อนที่มีทหารเข้าไปในพื้นที่ เว้นแต่คนที่ไม่ใช่ คนชอบไม่ชอบก็มีอยู่ สามเหลี่ยมภาคใต้จะต้องทำให้ความมั่นคงสงบเรียบร้อยเพื่อให้เศรษฐกิจเดินหน้าไปได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

“ยุทธศาสตร์ชาติ ใครเป็นคน ใครเป็นคนเขียน ก็นายกฯ ที่ทำ ฉะนั้นใครที่จะมาเป็นนายกฯ ต้องเป็นประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ และต้องทำตามยุทธศาสตร์ชาติ ถึงมีแต่คนที่อยากจะเป็นนายกฯ แต่ไม่อยากทำยุทธศาสตร์ชาติ เพราะมีการตีกรอบว่านายกฯ จะต้องทำอะไรบ้าง วันนี้ต่างประเทศยอมรับยุทธศาสตร์ชาติของเรา ซึ่งเราไม่ได้ทำตามแบบใคร เราคิดขึ้นเองเราต้องเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วมีความมั่นคงและยั่งยืน 20 ปี ใครที่อยากทำให้มาพูดแข่งกับผม คำว่าอนาคตนี่กระทบใครหรือไม่เนี่ย ชอบตั้งกันว่าชื่ออนาคตๆกันเยอะเหลือเกิน ให้เขาพูดแบบผมเนี่ยพูดได้มั้ย มาพูดสิใครจะทำอนาคตให้มาพูดแข่งกัน” นายกฯ กล่าว

นายกฯ กล่าวต่อว่า ที่ตนพูดไปในวันนี้จะเห็นว่ามีปัญหาสังคมคือความใจร้อน ใจร้อนที่สุดก็คืออยากจะเลือกตั้งหวังว่ามันจะดีขึ้น ก็คอยดูก็แล้วกันว่าเป็นอย่างไรเราต้องทำบ้านเมืองให้สงบเรียบร้อยให้ได้ ต้องทำให้ได้ทั้งหมดทั้งยุคเรา และยุคคนอื่น ต่อไปในวันหน้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกฯใช้เวลาในการปาฐกถาเกือบ 2 ชั่วโมง โดยช่วงหนึ่งนายกฯ ได้กล่าวขอโทษผู้ที่มาร่วมประชุม พร้อมหยุดพักเพื่อดื่มน้ำ แล้วถามผู้ร่วมประชุมว่าเหนื่อยหรือไหม ฟังนานแล้วจะเบื่อ ผมพูดเองก็เบื่อเหมือนกัน ซึ่งนายกฯ ได้สั่งให้ผู้ร่วมประชุมทั้งหมดลุกขึ้นยืนและยกมือขึ้นโบกไปทางซ้าย-ขวา โดยนายกฯ ได้กล่าวด้วยว่า “เราจะทำตามสัญญา” และสั่งให้ทุกคนนั่งลงอย่างเดิม

จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมนิทรรศการ และปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ โดยผ่านมาโบกมือพร้อมกล่าวกับผู้สื่อข่าวด้วยสีหน้าขึงขังว่า “ไม่มีอะไรจ๊ะ เพื่อประเทศชาติ อนาคตใคร อนาคตเรา เข้าใจไหม เราๆ” และไม่ตอบคำถามผู้สื่อข่าวกรณีที่ว่าอนาคตจะมาหรือไม่ และอนาคตท่านเล่นการเมืองหรือไม่ ก่อนจะเดินออกจากงานไปทันที