วันที่ 26 กันยายน 2561 สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ได้แถลงยอมรับความผิดพลาดในประเด็นเรื่องสิทธิส่วนบุคคล ตามที่ระบุในคำให้การจากผู้บริหาร อัลฟาเบ็ท อิงค์ ที่จะส่งถึงคณะกรรมการของวุฒิสภาสหรัฐฯในวันนี้ โดยเอกสารได้ระบุถึงคำกล่าวของนายเคียธ เอนไรท์ ผู้จัดการฝ่ายสิทธิส่วนบุคคลของกูเกิลว่า ยอมรับว่าสิ่งที่ทำไว้ในอดีตเป็นความผิดพลาด เราได้เรียนรู้จากจุดนี้และนำมาปรับปรุงโปรแกรมส่วนบุคคลให้มีประสิทธิภาพขึ้น

คำให้การของนายเอนไรท์ยังระบุด้วยว่า ตามคำโฆษณาที่ว่า ทุกผลิตภัณฑ์ของเรา ผู้ใช้งานวางใจเราในการรักษาข้อมูลส่วนตัวให้เป็นความลับและภายใต้การควบคุมของเรา เราไม่ขายข้อมูลส่วนตัวเป็นอันขาด

ถ้อยแถลงในคำให้การดังกล่าว กูเกิลยังไม่ได้ระบุชัดว่าความผิดพลาดที่กล่าวถึงนั้นคือเรื่องอะไร แต่กูเกิลนับว่าถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในเรื่องความบกพร่องต่อการปกป้องสิทธิส่วนบุคคล ไม่ว่าจากกรณีในปี 2555 ที่ กูเกิลต้องจ่ายค่าปรับทางแพ่งเป็นจำนวนเงิน 22.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯตามคำสั่งของคณะกรรมาธิการพาณิชย์กลาง หลังแสดงข้อมูลผิดพลาดแก่ผู้ใช้เบราว์เซอร์อินเทอร์เน็ตของ Apple Safari ว่าจะไม่วาง “คุกกี้” หรือให้บริการโฆษณาที่ตรงเป้าหมาย หรือเมื่อเดือนสิงหาคมที่อัลฟาเบ็ทถูกฟ้องในข้อหาว่าสอดส่องความเคลื่อนไหวผู้ใช้ไอโฟนและแอนดรอยด์นับล้านคนอย่างไม่ถูกต้อง แม้มีการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวเพื่อป้องกันเหตุดังกล่าว

ด้านนายแอนดรูว์ เดอวอร์ รองประธานของอะเมซอน อีคอมเมิร์สระดับโลก ได้กล่าวต่อคณะกรรมาธิการว่า กฎหมายสิทธิส่วนบุคคลฉบับใหม่ของสหภาพยุโรป ระบุให้เราออกห่างจากทรัพยากรที่มีนัยสำคัญไปยังงานธุรการและเก็บข้อมูลและหลีกเลี่ยงการคิดค้นคุณสมบัติใหม่ ๆ ให้กับลูกค้า

ขณะที่ นายเดเมียน คีราน ผู้จัดการฝ่ายป้องกันข้อมูลของทวิตเตอร์ได้เรียกร้องให้มีการพัฒนาแผนส่วนบุคคลที่มีประสิทธิภาพเพื่อปกป้องสิทธิปัจเจกชนขณะที่ยังคงไว้ซึ่งเสรีภาพในการมีนวัตกรรม

ทั้งนี้ กรมกิจการโทรคมนาคมและสารสนเทศของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯกล่าวว่า ที่ผ่านมาได้มีการประชุมกับบริษัทด้านเทคโนโลยีแล้วกว่า 50 แห่ง หวังที่จะพัฒนาให้เป็นไปตามมาตรฐาน