อดีต ส.ส.ประจวบฯ จี้รัฐบาลเร่งคืนความสุขแก้ปัญหามะพร้าวราคาร่วง อย่ารอชาวสวนเดินทางบุกประท้วงที่ กทม.

เมื่อวันที่ 24 กันยายน นายประมวล พงศ์ถาวราเดช อดีต ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า หน่วยงานในรัฐบาล คสช.ที่ประกาศนโยบายคืนความสุขให้ประชาชน ไม่ควรรอให้เกษตรกรจากเครือข่ายชาวสวนมะพร้าว จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่มีพื้นที่ปลูกมากที่สุดในประเทศ เดินทางไปพบกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงพาณิชย์ พร้อมกับชาวสวนในจังหวัดภาคใต้ช่วงเดือนตุลาคมนี้ เพื่อซ้ำเติมให้เป็นภาระในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ หลังจากที่ผ่านมาชาวสวนหลายจังหวัดได้ยื่นข้อเสนอหลายครั้งแต่ไม่มีคำตอบและแนวทางในการแก้ไขปัญหาระยะสั้นที่ชัดเจน โดยเฉพาะการลักลอบนำมะพร้าวจากต่างประเทศเข้ามาทุบราคาผลผลิตในประเทศให้เหลือเพียงผลละ 3-4 จากเดิมราคา 20-23 บาท ขณะที่รัฐบาลควรตรวจสอบตัวเลขการนำเข้ามะพร้าวอย่างถูกต้องย้อนหลัง 2 ปี เปรียบเทียบกับตัวเลขผลผลิตในการส่งออกว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นหรือไม่ และก่อนอนุมัติการนำเข้ามะพร้าวที่ผ่านมา ต้องขอคำตอบที่ชัดเจนจากกระทรวงพาณิชย์มีการอ้างอิงตัวเลขผลผลิตภายในประเทศจากหน่วยงานใดหรือไม่

นายชาตรี จันทร์วีระชัย นายอำเภอกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ในฐานะที่ครอบครัวมีธุรกิจนำเข้าส่งออกมะพร้าวยอมรับว่าปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำเกิดจากตลาดต่างประเทศสั่งซื้อลดลง โดยเฉพาะประเทศจีนเคยสั่งซื้อ Milk Drink หรือนมกะทิพร้อมดื่มจำนวนมาก แต่ปัจจุบันสั่งซื้อลดลง ขณะที่ผู้ประกอบการส่งออกส่วนใหญ่รวมตัวเจรจาการขายกับตลาดต่างประเทศกันเองเพื่อให้ซื้อเพิ่ม พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลกระตุ้นความต้องการของตลาดต่างประเทศ ให้ซื้อเพิ่มโดยภาพรวม รัฐจะต้องลงทุนนำผู้ประกอบการรายใหญ่ไปเปิดตลาดในต่างประเทศกับผู้ซื้อโดยตรงในประเทศที่ยังไม่ได้ส่งออก ขณะที่กรมส่งเสริมการส่งออก กรมเจรจาธุรกิจระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ สถานทูตไทยในต่างประเทศ และหน่วยงานของไทยในต่างประเทศต้องทำงานเพิ่มขึ้น เพื่อช่วยเปิดตลาดใหม่ๆ โดยเฉพาะตลาดใหญ่ในประเทศจีน ต้องพยายามเปิดตลาดให้ครบทุกมณฑล แต่ขณะนี้ผลผลิตมีขายเพียงบางเมืองขนาดใหญ่ของจีนเท่านั้น

“หน่วยงานของรัฐบาลต้องไปหาตลาดจริงๆ อย่าคิดว่าไปเที่ยว นำผู้ประกอบการไป ไม่ควรนำผู้ติดตามไปจำนวนมาก จากนั้นต้องจับคู่คุยกันระหว่างธุรกิจกับธุรกิจประเภทเดียวกัน ลักษณะคล้ายกัน ก็จะได้คู่ค้ารายใหม่ที่พร้อมสั่งซื้อ และขณะนี้มีผู้ประกอบการส่งออกหลายราย เช่น บริษัทไทยโคโคนัท ที่ จ.ราชบุรี พยายามบุกตลาดต่างประเทศใหม่ๆ แต่ยอมรับว่าไปยาก เพราะไม่ทราบว่าจะติดต่อกับใคร หรือเดินทางอย่างไร นอกจากนั้นคนไทยด้วยกันเองก็ต้องรักชาติ ไม่ควรนำพันธุ์มะพร้าวคุณภาพดีลักลอบออกไปขายประเทศเพื่อนบ้านทั้งที่ผ่านมาและปัจจุบัน เพื่อให้มีผลผลิตนำเข้ามาตีตลาดในประเทศทำให้ราคาลดลง ในอนาคตถ้าผลผลิตในกัมพูชา เวียดนาม ให้ผลเต็มที่ ชาวสวนมะพร้าวในไทยจะประสบปัญหายากลำบากมากกว่านี้” นายชาตรีกล่าว