ทบ.ยังติดตามคดีปี53 ขอความเป็นธรรม คดีทหารถูกกระทำไม่คืบ ปืนถูกปล้นยังได้คืนไม่ครบ

“โฆษกทบ.” ยัน กองทัพ ยังติดตามคดีเหตุการณ์ชุมนุมปี 53 เผย คดีทหารถูกกระทำคืบน้อย ปืนถูกปล้นได้ไม่ครบ วอนให้ความเป็นธรรม หลัง แม่น้องเกด-กลุ่มพลเมืองโต้กลับ ยืนหนังสือ ตรวจสอบ ทหารนายพล สั่งยุติคดี

เมื่อวันที่ 21 ก.ย.ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีกลุ่มพลเมืองโต้กลับ นางพะเยาว์ อัคฮาด หรือแม่น้องเกด นายณัฐภัทร อัคฮาด ลูกชาย ทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ เดินเท้าไปทำเนียบรัฐบาล ยื่นหนังสือ ถึงพล.อ.ประวิตร วงสุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ตรวจสอบกรณี มีนายทหารยศนายพลไปบุกอัยการเพื่อสั่งให้ยุติการดำเนินคดีกับทหาร กรณีสลายการชุมนุมปี 2553 ว่า กรณีคดีความเหตุการณ์ ปี 53 กองทัพบก ติดตามความความคืบหน้าคดีมาตลอด ไม่ได้ชะลอหรือทำให้เกิดความล้าช้า โดยทางคณะทำงานติดตามทางคดีของกองทัพบก ได้มีการติดตามเรื่องคดีต่างๆ อยู่เป็นระยะ แต่เพื่อรักษาบรรยากาศบ้านเมือง การให้ข้อมูลในช่วงที่ผ่านมาจึงต้องใช้ความระมัดระวัง เพราะห่วงความรู้สึกผู้ได้รับผลกระทบ

พ.อ.วินธัย กล่าวว่า ปัจจุบันเรื่องคดีนั้น เชื่อว่าหลายคดีที่มีองค์ประกอบพอเพียงที่จะดำเนินการทางคดีได้ และส่วนใหญ่ก็อยู่ในกระบวนการแล้ว สำหรับคดีที่เจ้าหน้าที่ทหารเป็นผู้ถูกกระทำ ก็มีความคืบหน้าน้อย ซึ่งคณะทำงานติดตามทางคดีของกองทัพบกก็ยังติดตามอย่างใกล้ชิด ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่ด้วยเช่นกัน

โฆษกกองทัพบก กล่าวอีกว่า ส่วนข้อห่วงใยคือ การติดตามอาวุธปืนราชการที่หาย เมื่อครั้งถูกปล้นและยึดไปเมื่อปี 2553 ปัจจุบันยังคงพยายามเร่งรัดหาคืน แม้ว่าในช่วง ปลายปี 2557 เจ้าหน้าที่สามารถยึดอาวุธสงครามบางส่วนได้ พร้อมออกมาตราการให้ใครก็ตามที่ครอบครองอาวุธสงครามนำส่งมอบให้ทางการมียอดรวมมากหลายหมื่นกระบอก

ทั้งนี้ในส่วนอาวุธปืนของกองทัพบกที่ถูกปล้นยึดหายไปคราวนั้น ก็ยังตามหากลับมาได้ไม่ครบ ทางคณะทำงานติดตามทางคดีของกองทัพบก จึงต้องให้ความสำคัญพร้อมเร่งรัดต่อเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน เพื่อทำให้เหตุการณ์เกี่ยวกับการใช้อาวุธสงครามในชุมชนเมือง ไม่เกิดขึ้นมาซ้ำรอยอดีต