นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยถึงการแบ่งเขต ส.ส.ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า เป็นความโชคดีของ จ.นครศรีธรรมราช ที่มี อดีต ส.ส.ปชป.ประสงค์ไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง เท่ากับว่าจากเดิมมี ส.ส. 9 คน เหลือ 8 คน ตามสัดส่วนของ กกต.พอดี ส่วนจะเป็นพื้นที่ใดนั้น ต้องรอความชัดเจนการแบ่งเขตพื้นที่จาก กกต.อีกครั้ง ซึ่งไม่น่าห่วง เนื่องจาก อดีต สส.ปชป.ทุกคนทำงานอย่างเต็มที่ในพื้นที่ของตนเองอยู่แล้ว หากจะต้องเปลี่ยนแปลงเขตพื้นที่บ้าง ก็ไม่น่าจะมีผลกระทบต่อฐานเสียงของแต่ละคน เข้าใจว่าโดยภาพรวมแล้วเรามองว่าจะทำอย่างไรให้ ส.ส.แต่ละคนมีเขตพื้นที่ของตนเองที่มีความชัดเจน เพื่อความมั่นคง เพื่อความสามารถในการดูแลพี่น้อง ประชาชนของตนเองในเขตเลือกตั้งได้อย่างทั่วถึง

ผู้สื่อข่าวถามว่า การแบ่งเขตของ กกต.ในภาพรวมจะมีผลกระทบต่อการเลือกตั้งครั้งนี้หรือไม่ นายชินวรณ์ กล่าวว่า โดยหลักแล้วต้องมีปัญหาอย่างแน่นอน เพราะเมื่อลดจำนวน ส.ส.ลงจาก ส.ส.เขต 400 คน เหลือ 350 คน อย่างน้อย 23 จังหวัด ทำให้จำนวน ส.ส.ลดลง ย่อมต้องมีผลกระทบกับจำนวน ส.ส.ที่มีอยู่จริง จังหวัดอื่นๆ คงไม่โชคดีเหมือน จ.นครศรีธรรมราช ฉะนั้น เรื่องนี้จึงเป็นหน้าที่ของกรรมการบริหารพรรคจะต้องไปดูว่าใครที่เหมาะสมที่จะไปลงในพื้นที่ใดหลังแบ่งเขตกันแล้ว โดยพรรคจะต้องพิจารณาถึงอนาคตว่าใครจะเหมาะสมกับพื้นที่ใด ซึ่งบางพื้นที่อาจจะต้องเหลื่อมล้ำกันบ้าง ซึ่งเราจะเห็นได้อย่างชัดเจน เช่น กรุงเทพฯ หรือในเขตของบางจังหวัด อาจต้องแบ่งเขตในบางอำเภอ

“เท่าที่ฟังดูการแบ่งเขตเลือกตั้งของ กกต.จะเป็นไปตามเขตภูมิศาสตร์ คำนึงถึงความสัมพันธ์ของประชากรในพื้นที่ด้วย ในส่วนนี้ผมเห็นด้วย หากไม่จำเป็นก็ไม่ควรที่จะแบ่งเขตอำเภอ สมมุติว่าอำเภอใหญ่จำเป็นที่จะต้องแบ่งเขต เพราะว่าจะมีผลแค่ความสัมพันธ์ของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ฉะนั้น จำนวนประชากร 189,110 คน จำนวนประชากรอาจแตกต่างกันบ้าง ซัก 2-3 หมื่นคน หรือต่ำลงกว่า 1 หมื่นคนจากเดิม ผมคิดว่าไม่ต้องแบ่งเขตก็จะเป็นประโยชน์กับประชาชนในพื้นที่ ในการดูแลของ ส.ส.ในพื้นที่ ที่สำคัญที่สุดคือหากประชาชนถูกแบ่งเขตกับตำบล จะเห็นภาพอย่างชัดเจนว่าเหมือนถูกทอดทิ้งอย่างที่ผ่านๆ มา โดยภาพรวมแล้วผมเห็นด้วยกับ กกต.” นายชินวรณ์ กล่าว