‘สามารถ’จับตา แบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ ใช้แท็กติกแยกฐานเสียง

“สามารถ” ไม่ห่วงปม แบ่งเขตใหม่ ชี้ แบ่งตามจำนวนประชาการ แต่กังวลจะใช้แท็กติกตัดแบ่งเขตที่เป็นฐานเสียง อัด นายกฯ ชี้โพรงให้กระรอกปมทำบัตรเสีย-โหวตโน บอกพรรคการเมืองไม่เคยคิด เพราะอยากเห็นผลว่าปชช.จะไว้วางใจใครมากกว่า

เมื่อวันที่ 19 กันยายน นายสามารถ แก้วมีชัย อดีตส.ส.เชียงราย และคณะทำงานติดตามการยกร่างรัฐธรรมนูญพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการแบ่งเขตของกกต. ซึ่งจำนวนเขตมีการลดลงอย่างมาก จะทำให้เกิดความได้เปรียบ เสียเปรียบอย่างไรหรือไม่ ว่า การแบ่งเขตนั้นเขาใช้จำนวนประชากรเป็นตัวตั้ง บิดไปจากนี้ไม่ได้ จำนวนส.ส.เดิมคือ 375 คน​ ตอนนี้เหลือ 350 ดังนั้น ต้องเฉลี่ยประชากรใหม่ ทั้งนี้ ตนมองว่าไม่มีผลทำให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบ เพราะจำนวนส.ส.ลดลงก็จำเป็นที่จะต้องลดเขต อย่างไรก็ตาม การจะได้เปรียบหรือไม่อยู่ที่การแบ่งเขตที่ภาษารัฐศาสตร์เรียกว่า การแบ่งเขตเลือกตั้งที่ไม่เป็นธรรม (Gerrymandering) ที่จะไปแบ่งเขตโดยใช้แท็กติกไปแบ่งเขตที่เป็นฐานเสียงของเราออก ซึ่งเรื่องนี้เราก็กำลังให้ส.ส.แต่ละเขตติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะเขาจะมีการเปิดให้แสดงความคิดเห็นก่อนที่กกต.จังหวัดจะส่งข้อมูลเข้ามาให้ส่วนกลางอยู่

เมื่อถามว่า มีความกังวลในส่วนของการใช้แท็กติกหรือไม่ นายสามารถ กล่าวว่า มีบางจังหวัดที่อาจจะมีผู้มีอำนาจนอกกฎหมายเข้าไปทำอะไรที่ทำให้มีปัญหา แต่เราก็เชื่อว่าเรามีโอกาสที่จะสามารถแก้ไขสถานการณ์ได้

เมื่อถามถึงกรณีพล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกฯ ออกมาระบุนายกห่วง เรื่อง รณรงค์ ให้ทำบัตรเสีย หรือโหวตโน นายสามารถ กล่าวว่า เรื่องนี้เราก็ยังสงสัยว่านายกฯเกิดความคิดเช่นนี้ขึ้นมาได้อย่างไร เพราะการพูดแบบนี้เหมือนกับการชี้โพรงให้กระรอก ส่วนตัวของเราไม่ได้คิดเลย พรรคการเมืองแบบเราไม่เคยมีสมองคิดแบบนั้น แต่สมองคนเรามี 2 ประเภท คือ สมองที่คิดด้านดี และสมองที่คิดด้านชั่ว สมองด้านชั่วเราไม่ค่อยมีก็เลยคิดไม่ค่อยทันเขา เราเชื่อว่าพรรคการเมืองทุกพรรคที่ปฏิบัติตามกติกาก็อยากเห็นผลว่าประชาชนอยากให้ความไว้วางใจใคร ไม่ใช่ไปยุยงให้ประชาชนโหวตโน หรือไปทำบัตรเสีย ท่านอาจจะคิดแบบนี้ได้ แต่ไม่ควรออกมาพูดแบบนี้ เพราะท่านเป็นผู้นำความคิดเห็นในสังคม