ครม.เห็นชอบโครงการชุมชนไม้มีค่า หนุนเกษตรกรปลูก ใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน

ครม.เห็นชอบโครงการชุมชนไม้มีค่า หนุนเกษตรกรปลูก ใช้เป็นหลักทรัพย์ในการค้ำประกัน สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ 1.04 ล้านล้านบาท

เมื่อวันที่ 18 กันยายน ที่มหาวิทยาลับราชภัฏเพชรบูรณ์ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) นอกสถานที่อย่างเป็นทางการได้อนุมัติในหลักการให้จัดทำโครงการชุมชนไม้มีค่า ซึ่งเป็นโครงการที่ 3 ของรัฐบาลที่ดำเนินการตามคำเรียกร้องของพี่น้องประชาชน เพื่อสนับสนุนให้เกษตรกรปลูกไม้มีค่า ใช้เป็นหลักทรัพย์ในการค้ำประกัน หรือเป็นทรัพย์สินส่วนตัว ที่สามารถปลูกและตัดขายได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องจากการใช้ต้นไม้ 58 ชนิดเป็นสินทรัพย์ค้ำประกัน และอนุญาตให้ปลูกและตัดต้นไม้มีค่าได้ ซึ่งรัฐบาลมีเป้าหมายให้มีชุมชนไม้มีค่าให้ได้ 20,000 แห่งทั่วประเทศ ได้พื้นที่ป่าเพิ่มขึ้น 26 ล้านไร่ ภายในระยะเวลา 10 ปี ให้ประชาชนจำนวน 2.6 ล้านครัวเรือนมีความมั่นคงในอาชีพตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจประมาณ 1.04 ล้านล้านบาท ซึ่งจะมีการทำทะเบียนชุมชน ในการขยายผลสร้างเป็นเครือข่าย มีการลงทะเบียน การคัดเลือกพันธุ์ การส่งเสริมการปลูกโรงเพาะชำ การหาวิธีประเมินมูลค่า และส่งเสริมการแปรรูป เชื่อว่าจะทำให้คุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้น ด้วยการมีหลักประกันระยะยาว สามารถใช้เป็นเงินออม หรือเป็นธนาคารต้นไม้ของประชาชนเอง และยังสามารถลดปัญหาก๊าซเรือนกระจก สำหรับการจัดหากล้าไม้ทางกรมป่าไม้จะเป็นผู้ดูแลจัดหาให้กับประชาชนและชุมชนให้ได้ตามความต้องการที่มี ส่วนสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ(วช.) จะช่วยวิจัยเพิ่มเติมเพื่อให้ได้พันธุ์ไม้ที่ดีที่สุด ไปจนถึงวิธีการเพาะปลูก ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) จะสนับสนุนทุนทำโรงเพาะชำ และสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพจะดูแลการพัฒนาอาชีพ การใช้ประโยชน์จากต้นไม้ทุกชิ้นส่วน เป็นต้น