เตือนเลี่ยงยาปฏิชีวนะ ชี้ไข้หวัด-เจ็บคอ อาจไม่ใช่แบคทีเรีย

วันที่ 18 กันยายน 2561 นพ.โสภณ เมฆธน ประธานกรรมการองค์การเภสัชกรรม(บอร์ด อภ.) กล่าวว่า รัฐบาลไทย ได้ประกาศยุทธศาสตร์ชาติ ด้านการจัดการการดื้อยาต้านจุลชีพ พ.ศ.2560-2564 เร่งจัดการปัญหาการใช้ยาปฏิชีวนะที่ไม่สมเหตุผล ซึ่งนำไปสู่การเกิดเชื้อดื้อยา โดยกระทรวงสาธารณสุข กำหนดเรื่องการใช้ยาปฏิชีวนะเป็นประเด็นสำคัญของนโยบายการใช้ยาอย่างสมเหตุผล ให้โรงพยาบาลในสังกัดทุกแห่งมีการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างสมเหตุผล

โดยองค์การเภสัชกรรมสนองนโยบายดังกล่าว โดยแนะนำให้ใช้สมุนไพรฟ้าทะลายโจร ในผู้ป่วยที่เป็นไข้หวัด เจ็บคอ ซึ่งร้อยละ 90 ไม่ได้ติดเชื้อแบคทีเรีย จึงไม่ควรรับประทานยาปฏิชีวนะ สิ่งที่ควรปฏิบัติ คือ รักษาตามอาการ และใช้สมุนไพรฟ้าทะลายโจร เนื่องจากมีผลการทดลองที่พิสูจน์แล้วว่าใช้ในการรักษาโรคไข้หวัดเจ็บคอได้เป็นอย่างดีแทนยาปฏิชีวนะ หากอาการยังไม่ดีขึ้นให้ไปพบแพทย์

ด้าน ภก.สุวิทย์ ธีรกุลชน ผู้อำนวยการไทยเฮิร์บ เปิดเผยว่า ปัจจุบันสมุนไพรฟ้าทะลายโจร เป็นที่รู้จักทั่วโลก และใช้กันอย่างแพร่หลายทั้งในยุโรป อเมริกา และออสเตรเลีย ยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจรได้พัฒนาเป็นรูปแบบสารสกัดที่มีข้อดี คือ ไม่ต้องทานจำนวนหลายเม็ด มีการตรวจวัดสารออกฤทธิ์ คือ ตัวยาแอนโดรแกรฟโฟไลท์ ให้มีมาตรฐาน 20 มก.ต่อแคปซูล สามารถทานเพียงครั้งละ 1 เม็ดวันละ 3 ครั้ง

ซึ่งมีผลการทดลองทางคลินิกแล้วว่าการใช้สารสกัดฟ้าทะลายโจรให้ประสิทธิภาพในการรักษาโรคหวัดเจ็บคอได้ดี หากเริ่มมีอาการแล้วรับประทานทันทีจะได้ผลดี เพราะโรคหวัดเป็นไวรัส ฟ้าทะลายโจรจะไปเพิ่มภูมิคุ้มกัน ทำให้ไวรัสถูกกำจัดออกจากร่างกาย การใช้ยาปฏิชีวนะจึงไม่สามารถรักษาโรคไข้หวัดที่เกิดจากไวรัสได้ ไม่เพียงเท่านั้นการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างไม่ถูกต้อง ยังนำไปสู่ปัญหาเรื่องเชื้อดื้อยาตามมาอีกด้วย