“ปิยบุตร”ลงใต้ดูปัญหาประมง ชี้ รบ.เน้นแต่ใช้กม.-ไร้ปชช.ร่วม จนทำลายธุรกิจประมง

“ปิยบุตร” ลงพื้นที่รับฟังปัญหาชาวประมงปัตตานี ชี้รบ.บังคับใช้กม.ให้ไทยพ้นใบเหลืองใบแดง แต่กลับทำลายธุรกิจประมง

เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม นายปิยบุตร แสงกนกกุล ว่าที่เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ เดินทางลงพื้นที่รับฟังปัญหาของชาวประมงในจังหวัดปัตตานี พร้อมทั้งเยี่ยมชม ท่าเทียบเรือประมงปัตตานี องค์การสะพานปลา พร้อมกล่าวว่า ตอนนี้ธุรกิจประมงแย่มาก จากการลงพื้นที่พบว่านักธุรกิจประมงหลายรายขาดทุน หลายรายยกเลิกทำประมงไปแล้ว ซึ่งเป็นผลกระทบต่อเนื่องมาจากมาตรการที่เราออกมาเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานของ ไอยูยู (IUU) โดยออกเป็น พ.ร.ก.การประมง พ.ศ.2558 ซึ่งมีหลายเรื่องวางมาตรฐานโดยไม่ได้สอบถามความเห็นชอบจากชาวประมง ทำให้ปฏิบัติตามได้ยาก อีกทั้งถ้าไม่ปฏิบัติตามก็ยังเจอโทษที่หนัก สบช่องให้เกิดการเรียบรับเงิน เกิดการทุจริตคอร์รัปชั่นของเจ้าหน้าที่รัฐ ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้สะท้อนโยงกลับมาที่การเข้ามาของรัฐบาล คสช. ซึ่งเป็นรัฐบาลที่ไม่ชอบธรรมในทางประชาธิปไตย เมื่อต้องการเจรจาระหว่างประเทศ ก็ทำให้อำนาจในการต่อรองน้อยลง จะเห็นว่ามาตรฐานของไอยูยูนั้น ในประเทศอื่นๆ อย่างเวียดนาม เขาเจรจาต่อรองได้ยืดเวลาไปได้หลายปี แต่เราด้วยความไม่เป็นประชาธิปไตย พอเจอใบเหลืองก็กังวลใจ จึงยอมรับทุกอย่างที่ไอยูยูกำหนดมาใช้ทันทีเลย โดยที่ไม่สอบถามว่าธุรกิจประมงนั้นสามารถทำได้หรือไม่

“นักธุรกิจ ประมงพาณิชย์หลายท่านที่ผมไปเจอมา ไม่ได้มีปัญหาต่อมาตรฐานไอยูยู ทุกคนพร้อมที่จะปฏิบัติตาม เพียงแต่ว่าต้องขอความร่วมมือในเรื่องระยะเวลา ค่อยๆ ขยับขยายให้ทำตามขั้นตอน ข้อกำหนดนั้น และมีส่วนร่วมในการพูดคุยว่า กฎหมายหรือมาตรการต่างๆ ที่จะออกมาจุดไหนที่จะพอยอมรับกันได้ สอดคล้องกับมาตรฐาน และทำให้ธุรกิจของเขาอยู่ได้ด้วย นี่เป็นเรื่องสำคัญมาก เราจำเป็นต้องกลับมาทบทวน หาจุดร่วมกันระหว่างผู้ประกอบการประมง แรงงาน และมาตรฐานของไอยูยู มานั่งเจรจาตกลงกัน ว่าจุดไหนที่พอจะรับกันได้ เพราะการที่เรายอมรับกฎเกณฑ์ระหว่างประเทศไว้ทั้งหมด โดยไม่เจรจาต่อรองเลย จะส่งผลในระยะยาวคือ ผู้ประกอบการรายเล็ก หรือระดับกลาง จะไม่สามารถทำได้ตามมาตรฐาน ใบอนุญาตก็จะถูกยึด ต้องเลิกประกอบกิจการ สุดท้ายก็จะเกิดกลุ่มทุนใหญ่ซึ่งเป็นทุนผูกขาดเข้ามาเทกโอเวอร์ และไม่ใช่แค่การเทกโอเวอร์เรือ หรือเทกโอเวอร์บริษัทเท่านั้น แต่ในระยะยาว นี่คือการเทกโอเวอร์ทั้งธุรกิจประมง” นายปิยบุตรกล่าว

นายปิยบุตรกล่าวอีกว่า จากการรับฟังปัญหาในหลายๆ พื้นที่เรื่องนี้ ทางพรรคอนาคตใหม่ตั้งใจที่จะออกแบบนโยบายเรื่องเกี่ยวกับการประมงและผลักดันต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทบทวนกฎหมายใหม่ โดยหลักการประชาธิปไตย การมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ผู้มีส่วนได้เสีย มานั่งคุยกัน แก้ไขกฎหมายใหม่ร่วมกัน และอนาคตเมื่อต้องการให้เรือประมง ชาวประมง ธุรกิจประมงได้มาตรฐานไอยูยูมากขึ้น รัฐจำเป็นต้องเข้าไปสนับสนุน และให้เวลาในการเปลี่ยนผ่านจนได้มาตรฐาน การบังคับใช้กฎหมายแบบเคร่งครัดทันที อาจจะแลกมาซึ่งการที่เราไม่โดนใบเหลืองใบแดง หรือรัฐบาลได้รับการยอมรับจากต่างประเทศ แต่ในทางกลับกัน กลับทำลายธุรกิจประมงของคนไทยไป