17 ก.ย. ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) พร้อมคณะอาทิ ลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.เลย และประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) จ.เพชรบูรณ์ วันที่ 17-18 ก.ย.

08.40 น. พล.อ.ประยุทธ์ และคณะ เดินทางมาที่หอประชุมทองวิไล มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย อ.เมืองเลย เพื่อเป็นประธานในพิธีเปิดถนน 4 เลน หมายเลข 201 ตอน เลย-เชียงคาน และเป็นสักขีพยานมอบหนังสือแสดงโครงการป่าชุมชน ให้แก่ประธานป่าชุมชน 5 จังหวัด บึงกาฬ เลย หนองคาย หนองบัวลำภู และอุดรธานี โดยมีนายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าฯเลย และข้าราชราช ประชาชนกว่า 1,500 คนให้การต้อนรับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรก ภายหลังพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และพ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. ประกาศในราชกิจจานุเบกษา และคำสั่งมาตรา 44 คลายล็อกพรรคการเมือง

ทั้งนี้ จังหวัดได้ต้อนรับนายกฯด้วยวงดนตรีผสมของคนหลายสาขาอาชีพ ขับร้องเพลง“สร้างไทยไปด้วยกัน” และเพลง“มากกว่ารัก” ของโรส ศิรินทิพย์ เพื่อเป็นกำลังใจให้พล.อ.ประยุทธ์ มีข้อความในเวทีว่า “รักลุงตู่นะคะ”

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวกับประชาชนตอนหนึ่งว่า ได้ฟังเพลงมากกว่ารักแล้ว รู้สึกซาบซึ้ง เต็มตื้น ตนไม่ได้ให้ทุกคนมารัก แต่ตนรักทุกคน รัฐบาลนี้พยายามทำเต็มที่เพื่อขับเคลื่อนกลุ่มจังหวัดไปข้างหน้า ขอให้ทุกคนเรียนรู้และฟังในสิ่งที่รัฐบาลพูด หลายอย่างต้องใช้เวลา

“ทุกคนบอกว่ารักลุงตู่ ก็ต้องช่วยกันทำให้ลุงตู่มีกำลังใจ และเมื่อลุงตู่เจอทุกคนก็มีกำลังใจแล้ว เสาร์-อาทิตย์ ผมนั่งพักผ่อน ทำงานบ้าง เขียนหนังสือบ้าง ถือเป็นธรรมดา เพราะผมยังมีความเป็นมนุษย์อยู่ บางทีก็มีกำลังใจ บางทีก็ท้อแท้ แต่ท้อไม่ได้เพราะพวกเราทุกคนรออยู่

“ดังนั้นถ้าพวกท่านท้อแท้ ขอให้นึกถึงหน้าผม หรือนึกถึงหน้าผมแล้วจะท้อหนักกว่าเดิมก็ไม่รู้”

ยืนยันว่า ผมไม่ได้อะไรกับพวกท่านเลย มีใครเดือดร้อนกับผมบ้าง ผมว่ามีไม่กี่คนที่เดือดร้อนกับผม เบื่อรัฐบาล และคสช. เพราะวันนี้เรากำลังทำสิ่งที่ดี และดีกว่าเดิม” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ยืนยันไม่เป็นศัตรูกับใคร ทั้งอดีตนักการเมืองและอดีตรัฐบาล แต่อยากให้ทุกอย่างดำเนินการตามกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ตนไม่จำเป็นต้องไปไล่ล่าหรือฆ่าฟันใคร และอยากให้มองว่าที่ผ่านมาแตกต่างกับวันนี้อย่างไร วันนี้มีรอยยิ้มกันมากขึ้นจึงอยากให้ทุกคนช่วยกัน ทุกรัฐบาลต้องเป็นแบบนี้ ไม่ใช่ให้ใครคนใดคนหนึ่ง

นายกฯ กล่าวว่า ทั้งนี้ ฝากประชาชนอย่าหลงเชื่อว่าใครสัญญาว่าจะให้โครงการนู้นโครงการนี้ เพราะถ้าทำง่าย ตนคงไม่อยู่มาถึง 4 ปี ทำอะไรต้องดูกฎหมายทำได้หรือไม่และจะนำเงินงบประมาณจากไหน เพราะวันนี้มีกฎหมายวินัยการเงินการคลัง ที่ต้องระมัดระวัง พร้อมยืนยันว่ารัฐไม่ได้ถังแตก ยังมีเงินสำรองมหาศาล และเราไม่ใช่ประเทศที่มีหนี้สาธารณะเกิน 60 เปอร์เซ็นต์ แต่ทำอะไรต้องอยู่ในกรอบ ไม่ทำให้ระบบงบประมาณการเงินการคลังเสียหาย

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในการประชุม ครม.ถ้ามีการเสนอแผนมาต้องพิจารณาว่า ตรงหรือสอดคล้องกับแผนที่วางไว้หรือไม่ เพื่อให้เป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ซึ่งยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีเป็นการเขียนแผนวางอนาคต เพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง ไม่ใช่รัฐบาลจะรักษาอำนาจไว้ 20 ปี ใครจะอยู่ยังไม่รู้ หมดหน้าที่ก็คือหมด วันหน้าใครจะเป็นรัฐบาล ไม่ว่าลุงตู่หรือใครก็แล้วแต่

“ผมพูดในฐานะเป็นรัฐบาลที่ต้องการสร้างปรองดอง ความสงบและสันติในชาติในช่วงการเลือกตั้ง ดังนั้น ไม่ว่าก่อนหรือหลังการเลือกตั้งต้องสงบแบบนี้ ผมไม่ใช่นักการเมือง ตอนนี้ผมทำหน้าที่งานการเมือง ทำให้คนทั้งประเทศ ไม่ใช่ทำให้คนที่ชอบผม แล้วไม่ทำให้คนที่ไม่ชอบ แต่ผมทำให้ทุกคน และการไปถึงตรงนั้นได้ ทุกรัฐบาลต้องเดินต่อ และการเลือกตั้งที่จะมาถึง ฝากท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ว่าในการเลือกตั้งไม่ให้เกิดความวุ่นวายแบบเดิม” นายกฯ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า วันนี้เรากำลังก่อสร้างปราสาท สร้างบ้าน สร้างประชาธิปไตยให้เข้มแข็ง ไม่ให้มันพังทลายไป ให้ช่วยเติมอิฐ ปูน ทรายเข้าไป แล้วเชื่อมด้วยน้ำใจของพวกเรา ผสมไปด้วย ความทุ่มเทของทุกคนจะทำให้ปราสาทหลังนั้น บ้านเมืองของเราเข้มแข็ง ไม่ให้พังลง ไม่ให้ใครมาเซาะฐานรากที่เป็นแกนหลักของประเทศไทย

จากนั้นนายกฯ เดินทักทายประชาชน โดยมีหญิงคนหนึ่งตะโกนเรียกพร้อมบอกว่า อย่าทิ้งคนพิการ นายกฯกล่าวว่า ไม่ทิ้ง เพราะเราดูแลการเข้าถึงในเรื่องต่างและเบี้ยยังชีพของคนพิการ ไม่ว่ารัฐบาลใครก็แล้วแต่ที่ออกมาพูดว่าให้เบี้ยเท่านั้นเท่านี้ มันเป็นไปไม่ได้ เพราะต้องคำนวณสัดส่วนรายได้ ซึ่งต้องคำนึงถึงความเป็นธรรม อำนาจอยู่ที่พวกเราทุกคน อย่าเอาอำนาจไปให้กับคนไม่ดี ให้ใครตนก็ไม่รู้เหมือนกันไปดูกันเอง

ก่อนที่นายกฯ เยี่ยมชมนิทรรศการโครงการไทยนิยม ยั่งยืน โอทอป วิถีและการท่องเที่ยวชุมชน โครงการสร้างป่า สร้างรายได้ และโครงการอาหารปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการลงพื้นที่ มีนางเปล่งมณี เร่งสมบูรณ์สุข อดีตส.ส.เลย มาให้การต้อนรับพล.อ.ประยุทธ์ด้วย

ขณะที่นายปรีชา มีชื่อติดอยู่บนเก้าอี้ในหอประชุม แต่ไม่ได้เดินทางมาต้อนรับ หลังมีข่าวว่าจะเข้าร่วมกับกลุ่มสามมิตรสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯอีกสมัย นอกจากนี้ยังสำรองที่นั่งติดป้ายชื่อนายธนเทพและนางนันทนา ทิมสุวรรณ และนายวันชัย บุษบา อดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย ไว้โซนแถวหน้าอีกด้วย